พ่อแม่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจเมื่อลูกพูดว่า “ไม่รักแล้ว”

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

ไม่รักแล้ว” คำพูดเพียงสั้น ๆ ที่ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ คิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายวันว่าเราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า? ลูกหมายความว่าอย่างนั้นจริงหรือ? เพื่อเป็นการทำความเข้าใจในสิ่งที่ลูกคิดและแสดงออกมา วันนี้เราจะมาดูต้นตอกันค่ะว่าเพราะอะไรลูกถึงพูดคำนี้ออกมา

สาเหตุที่ลูกพูด “ไม่รักแล้ว” ออกมา

เป็นไปได้ว่ามาจากสาเหตุ 2 ข้อนี้ค่ะ

คลังศัพท์เขายังน้อย ไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดแทนความรู้สึกขณะนั้น

เพราะเด็กจะยังไม่เข้าใจความหมายในเชิงนามธรรม เพราะฉะนั้นการแสดงออกซึ่งคำว่า “รัก” ของเขาก็คือ การให้สิ่งของ ซึ่งเป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้ การกอด การบอกชอบ อาจไม่ใชเรื่องแปลกที่ลูกจะบอชอบในทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกชอบ หรือรู้สึกพึงพอใจ แต่ในขณะที่ความหมายของคำว่า “รัก” ของผู้ใหญ่นั้นมันลึกซื้งมากกว่า

กลับมาพิจารณาในเรื่องอารมณ์ของเด็กกันค่ะ เวลาที่เด็กรู้สึกโกรธ หรือโมโห เขาก็จะเลือกใช้คำศัพท์ที่เขารู้จัก และแสดงออกมาอย่างไม่ซับซ้อน เรียกว่าถ้าไม่มีใครบอกเขาว่า “ความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร?” เขาก็จะระบุความรู้สึกจากคลังคำศัพท์ที่เขามีอย่างจำกัดในหัว

เด็กในวัยปฐมวัยซึ่งเป็นวัยที่เพิ่มเริ่มเรียนรู้ เริ่มมีพัฒนาการทางด้านความคิดและภาษา ประสบการณ์ในชีวิตก็มีจำกัด และเมื่อผนวกกับคำศัพท์ในหัวก็มีจำกัด ส่งผลให้เขาไม่เข้าใจความรู้สึกที่ซับซ้อนได้ เขาจะเข้าใจได้ก็เฉพาะอารมณ์ในขั้นพื้นฐาน เช่น ความสุข ความเศร้า ความดีใจ และความเสียใจ

และด้วยเหตุนี้ เวลาที่เด็กโกรธ โมโห หรือไม่พอใจอะไรมาก ๆ หรืออาจถูกขัดใจ เขาก็เลือกที่จะพูดว่า “ไม่รักแล้ว

เลียนแบบมาจากสิ่งแวดล้อม เคยได้ยินผู้ใหญ่พูด

สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กมีผลมากค่ะ โดยผู้ใหญ่บางคนใช้ “ความรัก” เป็นเงื่อนไข ตัวอย่างเวลาที่เด็กดื้อไม่เชื่อฟัง ก็มักจะพูดว่า (ไม่ว่าตั้งใจหรือหลุดปากพูดก็ตาม)

“ดื้อมาก ๆ เดี๋ยวไม่รักเลย”

คราวนี้เด็กก็จะเรียนรู้ว่า ผู้ใหญ่จะรักเขาก็ต่อเมื่อเขาเป็นเด็กดี เชื่อฟังในสิ่งที่ผู้ใหญ่ชอบ เด็กก็จะเลียนแบบในมุมที่ว่า ถ้าผู้ใหญ่ทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ หรือทำให้เขาไม่พอใจ เขาจึงพูดแบบเดียวกันกับที่ผู้ใหญ่พูดกับเขาเช่นกัน อาทิ “แม่ไม่ยอมให้กินไอศกรีม หนูไม่รักแม่แล้ว” หรือ “พ่อเสียงดัง พ่อดุ ไม่รักพ่อแล้ว” เป็นต้น

แนวทางการรับมือเวลาที่ลูกพูด “ไม่รักแล้ว”

การที่ลูกพูดว่า “ไม่รักแล้ว” คุณพ่อคุณแม่จะรับมืออย่างไรดี?

ให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งสติ ไม่โมโหกลับ

เมื่อใดก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่ได้ยิน “ไม่รักแล้ว” อย่างเพิ่งโกรธหรือโมโหลูกกลับนะคะ แต่ให้พาตัวเองและลูกไปหามุมสงบ นั่งลงข้าง ๆ กัน นั่งเงียบกันซักพัก งดการพูดคุยโดยเฉพาะในช่วงที่ทั้งคู่ยังรู้สึกโมโหอยู่ รอเวลาให้อารมณ์ของทั้งลูกและคุณพ่อคุณแม่สงบลง หลังจากนั้นค่อยพูดคุยถึงสาเหตุกันว่า “เพราะอะไรลูกถึงโกรธ?” ด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่อ่อนโยน

บอกลูกถึงความรู้สึกของลูกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น

เมื่ออารมณ์สงบกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ค่อยสอนหรือบอกลูกว่า อารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้คืออะไร? และอธิบายให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าหนูรู้สึกอย่างไร เช่น “ที่หนูโมโหเมือกี้ เพราะหนูไม่ได้สิ่งที่อยากได้ หนูเลยรู้สึกไม่พอใจ โกรธพ่อกับแม่ หนูจึงพูดแบบนั้นออกมา

บอก “รัก” ลูกน้อย

เมื่อคุณพ่อคุณแม่สอนลูก อธิบายลูกในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมที่จะ “บอกรัก” เพื่อให้ลูกได้รู้ว่า ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะโกรธเขามากแค่ไหนก็ตาม ไม่ว่าลูกจะน่ารักหรือไม่น่ารักในวันไหนก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็พร้อมที่จะให้อภัยเสมอ

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้ยินลูกพูดว่า “ไม่รักแล้ว” บ่อยแค่ไหนก็ตาม ให้ตั้งสติก่อน อย่าเพิ่งน้ำตานองหน้า แต่กลับกันเราต้องค่อย ๆ สอนเขา พร้อมกับบอกเค้าในทุกครั้งว่า “ไม่ว่าลูกจะบอกไม่รักพ่อแม่ในวันนี้ แต่พ่อกับแม่ก็รักลูกมากนะ” ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ลูกได้รับรู้ว่า “ความรักของพ่อแม่เป็นรักที่บริสุทธิ์ ปราศจากเงื่อนไข

อ้างอิง
เมริษา ยอดมณฑป เจ้าของแฟนเพจตามใจนักจิตวิทยา

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP