อาการหวงสิ่งของต่างๆ ของเด็กในวัยนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะว่าเขายังไม่มีความรู้และความเข้าใจว่าคนอื่นมีความต้องการอะไรอย่างไรบ้างและยังไม่รู้จักกับการแบ่งปันนั่นเอง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติของเขาแต่คงจะไม่ดีแน่ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะปล่อยผ่านโดยที่ไม่สั่งสอนเขาเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อโตไปแม้เขาจะเริ่มเข้าใจการแบ่งปันมากขึ้นแล้วแต่เมื่อเขาไม่เคยรับรู้ว่าเขาต้องทำนั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไรและอาจจะทำให้เขาเป็นคนขี้หวงมากไปถึงขั้นเป็นคนไม่มีน้ำใจก็เป็นได้ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ลองมาหยิบเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เรากำลังจะแนะนำกันในวันนี้ไปสอนลูกของคุณให้กลายเป็นเด็กดีมีน้ำใจและไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนกันดีกว่า
สารบัญ
เปิดใจให้กว้างแล้วพาลูกไปเป็นคนที่รู้จักแบ่งปันกัน
เตรียมความพร้อมในการแบ่งปันให้กับเขา
เริ่มเร็วมากเท่าไรก็ยิ่งดีกับลูกมากขึ้นเท่านั้นแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนควบคู่ไปพร้อมกับการให้เขาทำความเข้าใจตัวเองด้วย ให้เขารู้จักถามตัวเองว่าอะไรที่เขาแบ่งได้ อยากแบ่ง และยังไม่อยากแบ่ง เพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ถามความสมัครใจของเขาเอาแต่จะให้เขาเสียสละและแบ่งปันไปเสียหมดอาจจะทำให้กลายเป็นความกดดันและทำให้เขากลายเป็นคนหวงของมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้
คุณพ่อคุณแม่คือตัวอย่างที่ดีที่สุด
มาทำให้การแบ่งปันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของคุณพ่อคุณแม่กลายเป็นเรื่องคุ้นหูคุ้นตาลูกทำทุกอย่างแบ่งปันจนเป็นธรรมชาติและแน่นอนว่าลูกจะค่อยๆ ซึมซับการกระทำเหล่านี้ไปได้เองโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องพยายามไปสอนอะไรเขามาก เพราะเด็กๆ มักจะเลียนแบบสิ่งและสภาพแวดล้อมใกล้ตัวอยู่แล้วนั่นเอง
อยากให้เขาแบ่งปันแต่ต้องไม่หลอกเขา
อย่าใช้รางวัลหรืออะไรมาหลอกล่อให้ลูกของคุณต้องยอมแบ่งปัน เพราะถ้าบางอย่างที่เขาปฏิเสธและดูไม่อยากจะแบ่งปันนั้นสำหรับเขามันอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญกับจิตใจมาก แม้ว่าคุณจะบังคับให้เขาแบ่งปันได้สำหรับแต่ต่อไปใจของเขาก็คงไม่ได้รู้สึกดีกับการแบ่งปันอย่างแน่นอน
อย่าลืมคำชื่นชม
เมื่อเขาเลือกที่จะยอมแบ่งปันด้วยความเต็มใจแล้วนั้นการได้รับคำชมจากคนรอบตัวโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่แล้วนั้นต่อไปเขาก็จะมีกำลังใจในการแบ่งปันและชอบการแบ่งปันมากขึ้นได้ เพราะเขาจะรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับและเป็นที่รักของทุกๆ คนนั่นเอง และจังหวะที่เขาทำการแบ่งปันไปแล้วและคุณกำลังชื่นชมเขาหากแฝงคำสอนเข้าไปด้วยจะทำให้ลูกยิ่งเข้าใจเรื่องของการแบ่งปันลึกซึ้งขึ้นได้ด้วยตัวเองอีกทางหนึ่งด้วย
พาไปเห็นและสอนให้ได้ทำการบริจาคช่วยเหลือผู้ยากไร้
ในตอนนี้มีมูลนิธิ องค์กร และสิ่งรอบตัวมากมายที่น่าเห็นใจและรอความช่วยเหลืออยู่คงไม่แปลกถ้าคุณพ่อคุณแม่จะลองพิจารณามูลนิธิหรือองค์กรรวมถึงคนที่เหมาะสมที่จะได้รับความช่วยเหลือมาและพาลูกไปบริจาคช่วยเหลือเพื่อให้เขามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเพิ่มมากขึ้นและเห็นถึงความลำบากที่แท้จริง แน่นอนว่าอะไรพวกนี้สามารถสอนเขาได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั่นเอง
การแบ่งปัน มีน้ำใจ เห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นสิ่งดีๆ ที่ลูกของคุณจะสามารถมีติดตัวไปได้ตลอดแต่การสอนให้เขารู้จักคิด วิเคราะห์ และช่วยเหลือมีน้ำใจแบ่งปันอย่างถูกต้องด้วยนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถ้าต่อไปเขาช่วยเหลือจนตัวเองต้องตกที่นั่งลำบากก็คิดว่าคงไม่ใช่แนวทางของการช่วยเหลือที่ควรจะเป็นอย่างแน่นอน