ลูกไม่ช่วยงานบ้าน ลูกขี้เกียจ เพราะอะไร พร้อมวิธีแก้ไข

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านที่มีลูก พอลูกเริ่มโตขึ้นก็มีหลายๆ เรื่อง ที่กังวลและหนักใจ หนึ่งในหลายๆ เรื่องที่ว่าก็คือ “ความขี้เกียจ” ของลูก บอกให้ทำอะไรก็ไม่ทำ อ้างว่าอยากพักบ้าง อิดออดบ้าง หรือทำก็เหมือนดูไม่เต็มใจ เคยพยายามที่จะแก้ปัญหาโดยการแบ่งงานให้ลูกทำแล้ว แต่ลูกก็ยังนิ่งเฉย จะทำอย่างไรดี

ก่อนที่จะไปเรื่องวิธีแก้ โน้ตอยากให้คุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ลูกขี้เกียจกันซักนิดก่อนนะคะ

Youtube : ทำไมลูกขี้เกียจ พร้อมวิธีแก้ไข

ลูกไม่ช่วยงานบ้าน ลูกขี้เกียจ เพราะอะไร?

ลูกไม่ช่วยงานบ้าน จนคุณพ่อคุณแม่มองว่าลูกเกิดความขี้เกียจซึ่งจะสังเกตเห็นได้ก็เมื่อลูกอายุได้ประมาณ 6-8 ขวบ โดยก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่ลูกอายุ 3-5 ขวบ ก็มีพฤติกรรมที่เลียนแบบคุณพ่อคุณแม่อยู่ แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมถึงขี้เกียจขึ้นมาได้ ไปดูสาเหตุกันค่ะ

กลัวว่าลูกจะทำไม่เรียบร้อย ทำไม่สะอาด

กลัวว่าลูกจะทำไม่เรียบร้อย ทำไม่สะอาด

เพราะความที่คุณพ่อคุณแม่ทำงานนั้นๆ มาก่อน ผนวกกับความที่เป็นผู้ใหญ่จึงทำงานได้เรียบร้อยกว่า สะอาดกว่าเด็ก และผนวกกับเด็กเพิ่งจะหัดทำจึงทำได้ไม่เรียบร้อยและไม่สะอาดเท่าผู้ใหญ่ ผลออกมาคือ คุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ช่วยงานนั้นๆ อีกเลย

ว่ากล่าวเมื่อลูกทำไม่ได้ดั่งใจ

ว่ากล่าวเมื่อลูกทำไม่ได้ดั่งใจ

คุณพ่อคุณแม่ดีใจเมื่อลูกวิ่งเข้ามาช่วยงาน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ลืมตัวแอบคาดหวังไว้สูงว่าลูกต้องทำได้ถึงขั้นนั้นขั้นนี้ พอผลออกมาตรงกันข้ามก็ดุลูก ว่ากล่าวลูก ทำให้ลูกเกิดความเสียใจ ท้อใจ และไม่อยากทำอีก

กลัวว่าจะทำข้าวของเสียหาย

กลัวว่าจะทำข้าวของเสียหาย

เพราะการควบคุมกล้ามเนื้อของเด็กยังพัฒนาไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ บางครั้งการช่วยงานบ้านในบางประเภทอาจเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่กังวล และไม่อยากให้ลูกได้ลองทำ จึงกลายเป็นลูกไม่คุ้นเคยและไม่ได้เรียนรู้งานประเภทนั้น เมื่อเด็กโตขึ้น เค้าจะรู้สึกว่า “หนูไม่อยากทำข้าวของเสียหาย หนูไม่ทำดีกว่า

แบ่งงานที่ไม่ตรงกับความสนใจของลูก

แบ่งงานที่ไม่ตรงกับความสนใจของลูก

ความสนใจในงานต่างๆ ของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงแตกต่างกัน ผู้ชายอาจสนใจในเรื่องการทำสวน การช่วยคุณพ่อล้างรถ แต่สำหรับเด็กผู้หญิงอาจสนใจในเรื่องการช่วยตากผ้า พับผ้า หรือเข้าครัว ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะแบ่งงานให้ลูกทำควรพิจารณาจากความสนใจของลูกเป็นอันดับแรกนะคะ

วิธีแก้ไขให้ลูกช่วยงานบ้าน

การแก้ไขปัญหาลูกขี้เกียจจริง ๆ แล้วไม่ยากค่ะ เพียงแต่ต้องอาศัยความเข้าใจ การสังเกต และใช้เวลากันซักหน่อย เริ่มจากอะไรไปดูกันค่ะ

เริ่มจากงานง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนก่อน

เน้นงานที่ทำจบได้ในคราวเดียว อาทิ การพับผ้า เป็นต้น หรืองานอื่น ๆ ที่ง่าย ๆ เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยและความสนุกก่อน เมื่อลูกรู้สึกสนุก คราวหน้าก็จะไม่พลาดที่จะมาช่วยคุณแม่ทำงานบ้านแล้วล่ะค่ะ

บอกเล่าข้อดีของการทำงานบ้าน

เช่น การทำงานบ้านก็เป็นการออกกำลังกายได้อย่างหนึ่ง ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงอย่างการถูบ้าน นอกจากจะได้เหงื่อแล้ว พื้นบ้านก็ไม่ลื่น ลูกเองก็ไม่ลื่นล้ม แบบนี้เป็นต้นค่ะ

สร้างให้เป็นเกมอีกหนึ่งเกม

คุณพ่อคุณแม่อาจจะใช้วิธีสร้างแรงจูงใจให้ลูกช่วยงานบ้านด้วยการติดดาว สะสมแต้มในแต่ละสัปดาห์ เมื่อครบจำนวนดาวที่กำหนด ก็อาจมีรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกตามสมควร ก็จะเป็นการเพิ่มความสนุกในการทำงานบ้านได้มากขึ้นค่ะ

ทำงานบ้านพร้อมกัน คู่กันไปกับลูก

ในช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่สามารถทำงานบ้านร่วมกันไปกับลูก อาทิ รดน้ำต้นไม้ ล้างจาน หรือพับผ้า เป็นต้น เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าการทำงานบ้านนั้นไม่ได้เหนื่อยอย่างที่คิด หรือไม่ได้เหนื่อยจนเกินไป ที่สำคัญ จะเป็นการสร้างบรรยากาศให้ลูกรู้สึกสนุกอีกด้วยค่ะ

ลดความคาดหวังลง

ลดความคาดหวังลง

เพราะ “ความคาดหวัง” นับเป็นการเพิ่มความกดดันให้ทั้งคุณแม่และคุณลูก ไม่มีผลดีกับใครเลย เมื่อไม่ได้ดั่งที่หวัง คุณแม่ก็จะหงุดหงิด แล้วจะเผลอดุลูกไปอีก

ชื่นชมลูกเมื่อทำได้ดี

ชื่นชมลูกเมื่อทำได้ดี

บางครอบครัว กลัวว่าถ้าเราชมลูกแล้วลูกจะเหลิง แต่แม่โน้ตขอแชร์อย่างนี้นะคะ ว่าเราสามารถชมลูกได้ค่ะ เพียงแต่ไม่ได้ชมไปซะทุกเรื่องขนาดนั้น (อย่างนี้อาจเหลิงจริง) เรื่องไหนที่คุณแม่เห็นว่าเค้ามีความตั้งใจและพยายาม เมื่อลูกทำสำเร็จเราก็ชื่นชมเค้าตามสมควร ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้เด็กเป็นเด็กที่มี Self-esteem (การเห็นคุณค่าในตัวเอง) ได้ในอนาคต อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้าง Self-esteem ได้ใน “เทคนิคการฝึกให้ลูกมี Self – Esteem สูง?


สอนให้ลูกรักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเองหรือมี Self – Esteem สูงต้องทำอย่างไร? พบกับเทคนิคต่าง ๆ ได้ในบทความนี้ค่ะ

แบ่งงานตามความสนใจของลูก

แบ่งงานตามความสนใจของลูก

อย่างที่โน้ตกล่าวไว้ในตอนต้นค่ะ ว่าเด็กแต่ละคนอาจมีความสนใจที่แตกต่างกันได้หรืออาจเหมือนกันในบางอย่าง ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ ที่ต้องอาศัยการใส่ใจและสังเกตดูว่าลูกชอบกิจกรรมอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพอเศษแล้วแบ่งหน้าที่นั้นๆ ให้เค้าทำ รับรองเค้าจะทำออกมาได้ดีเชียวแหละ

เตือนลูกด้วยน้ำเสียงปกติและยืดหยุ่น

เช่น ถ้าคุณแม่มอบหมายงานไปแล้ว แต่ลูกยังเล่นอยู่ ไม่ลุกมาทำเสียที เรียกก็หลายครั้งแล้ว คุณแม่ลองเดินไปดูลูกนะคะ แล้วค่อยๆ จูงมือออกมาจากจุดนั้น

**แต่…ถ้าหากลูกกำลังเล่นติดพันอย่างสนุกสนานอยู่ เราไม่ควรจูงแขนลูกมา ณ ตอนนั้นนะคะ ไม่อย่างนั้นเค้าจะหงุดหงิดและยิ่งพาลไม่อยากช่วยงานเข้าไปใหญ่ คุณแม่ควรยืนดูลูกตรงนั้นอีกซักพัก รอจังหวะลูก ยืดหยุ่นให้ลูกซักหน่อย แล้วเค้าจะยอมเดินมาแต่โดยดี

ถ้าหากลูกกำลังเล่นติดพันอย่างสนุกสนานอยู่ เราไม่ควรจูงแขนลูกมา

แต่ถ้าครอบครัวไหนที่มีลูกอยู่ในวัย 3-5 ขวบ แม่โน้ตขอแชร์อย่างนี้ค่ะว่า วัยนี้เป็นวัยที่ชอบเลียนแบบผู้ใหญ่ ถ้าเค้าเห็นเราพับผ้า แล้วเสนอตัววิ่งเข้ามาช่วย เราก็ควรให้เค้าช่วยทำ แล้วอย่าลืมนะคะ อย่าเพิ่งคาดหวัง อย่าเพิ่งดุลูก หากเค้าทำดี เราควรชื่นชม เราให้เค้าทำแบบนี้บ่อย ๆ ไปจนโต จะเป็นการปลูกฝังความขยัน ความกระตือรือร้นให้ลูกแทนค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP