ดนตรีกับการพัฒนาสมอง ข้อดีที่พ่อแม่ควรรู้

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

เรื่อง “พัฒนาการที่ดีของลูก” เป็นสิ่งที่พ่อแม่ใส่ใจมากเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งในปัจจุบันเราจะพบว่ามีหลายๆ ครอบครัวที่นิยมส่งเสริมให้ลูกได้เรียนวิชาดนตรีเพิ่ม แสดงว่า “ดนตรี” มีส่วนส่งเสริมได้จริง แต่เอ๊ะ…จะส่งเสริมด้านใดบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

ดนตรีกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย

พื้นฐานพัฒนาการของเด็กตามวัย โดยทั่วไป มีดังนี้

วัย 2 – 5 ขวบ

เป็นวัยที่มีความคิดเป็นของตนเอง มีความเป็นเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ชอบทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ชอบการบีบบังคับ

วัย 4 – 7 ขวบ

เป็นวัยที่เริ่มมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบค้นหาสิ่งแปลกใหม่
ดังนั้น ดนตรีจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมการกล้าแสดงออก ความมั่นใจ และความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี เด็ก ๆ จะได้สนุกกับการคิดท่าเต้น หรือเรียนท่าเต้นใหม่ ๆ กล้าแสดงออกผ่านการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ เพื่อประกอบกับดนตรี การร้องเพลงก็เช่นกัน เมื่อเด็ก ๆ มีพื้นฐานทางดนตรี เขาจะสามารถสร้างเนื้อร้องเองได้ และแต่งเพลงเองได้ ซึ่งเป็นความสามารถด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้อย่างหนึ่ง

ดนตรีกับการพัฒนาสมอง

ลูกชอบเสียงร้องเพลงของแม่ มากกว่าเสียงพูด

พัฒนาการด้านการฟัง” นับเป็นพัฒนาการด้านแรกๆ ของลูก เพราะตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง เค้าจะสามารถได้ยินเสียงที่เราสื่อสารออกไปได้ตั้งแต่ช่วง 16 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์
ในวัยทารกเค้าจะมีความชื่นชอบเสียงเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ลูกสามารถรับรู้เสียงสูง-ต่ำได้ดี รวมไปถึงสามารถแยกเสียงพูดและเสียงร้องเพลงของแม่ออกจากเสียงผู้หญิงคนอื่นๆ ได้ดีอีกด้วยค่ะ
หากคุณแม่มีการกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟังของลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง หลังคลอดแล้ว 3 สัปดาห์ ลูกจะสามารถตอบสนองได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่คุณแม่ปลอบหรือร้องเพลงให้ลูกฟัง ลูกจะรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

ดนตรี” ช่วยสร้างเสริมทักษะในด้านต่างๆ ได้ ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ความสามารถในการรับรู้และความสามารถทางภาษา

ครอบครัวไหนที่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการด้านการรับรู้และมีความสามารถทางภาษาที่ดี “การเล่นดนตรี” เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถกระตุ้นทักษะด้านนี้ได้ดีและส่งผลไปถึงการอ่านก็จะทำได้ดีเช่นกัน เนื่องจากเสียงและคำพูดมีระบบการทำงานร่วมกัน และต้องทำควบคู่กันไป การเล่นดนตรีบ่อยๆ จึงช่วยฝึกเรื่องการถอดเสียงและถอดรูปแบบคำต่างๆ ยิ่งถ้าให้ลูกได้เล่นดนตรีนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สมองด้าน “ภาษาศาสตร์” ถูกกระตุ้นและได้รับการพัฒนาไปด้วย โดยสังเกตได้จากลูกจะจำคำศัพท์ได้ดีและมีทักษะการอ่านที่ดีค่ะ

ทักษะด้านคณิตศาสตร์

ทักษะการคำนวณที่ดีสร้างได้ด้วยการเล่นดนตรี
มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาได้ทดลองแบ่งเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ออกเป็น 2 กลุ่ม พบว่า เด็กกลุ่มที่มีประสบการณ์การเล่นดนตรีมากกว่า 2 ปีขึ้นไป สามารถทำคะแนนทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้ดีกว่าเด็กที่ไม่เคยเล่นดนตรีมาก่อน
นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กในกลุ่มที่เล่นดนตรีนั้น คนที่เล่นคีย์บอร์ดสามารถทำคะแนนได้สูงกว่าเด็กที่เล่นเปียโนหรือร้องเพลงอย่างเดียว

พัฒนาการด้านสติปัญญา

มหาวิทยาลัยโตรอนโตแห่งแคนาดาได้ทดลองแบ่งเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม โดย 2 กลุ่มแรกให้เรียนคีย์บอร์ดและร้องเพลงไปด้วย5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 7 เดือน อีก 2 กลุ่มให้ทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่การเล่นดนตรี
พบว่า ทั้ง 4 กลุ่มมีไอคิวที่ดีขึ้นตามพัฒนาการ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เด็กกลุ่มที่เล่นดนตรีมีไอคิวเพิ่มขึ้นถึง 7 จุด ขณะที่กลุ่มที่ไม่ได้เล่นดนตรีมีไอคิวสูงขึ้น 4.3 จุด
ที่สำคัญ “เด็กที่เล่นคีย์บอร์ดมีพัฒนาการด้านสติปัญญาที่ดีกว่าเด็กที่เล่นเปียโนและร้องเพลง

พัฒนาการด้านร่างกาย และมีสุขภาพดี

ประโยชน์ของ “การเล่นดนตรี” ไม่ใช่แค่ดีเฉพาะเรื่องภาษาและสติปัญญาดีเท่านั้นนะคะ แต่ยังดีต่อร่างกายค่ะ จากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในวัยก่อนเข้าเรียนการเล่นดนตรีส่งผลที่ดีต่อร่างกายพอๆ กับการเล่นพละเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังพบว่าการร้องเพลงส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน หัวใจ การหายใจและการทำงานของปอด ช่วยปรับท่าทางและสรีระร่างกายให้ดีขึ้น ช่วยลดความตึงเครียดได้อีกด้วยนะคะ

การพัฒนาตนเองและทักษะด้านสังคม

ด้านการพัฒนาตนเอง เด็ก ๆ จะรู้สึกประสบความสำเร็จจากการมุ่งมั่นและอดทน เพราะกว่าจะเล่นเป็นเพลงได้ เด็ก ๆ จะต้องอาศัยการฝึกซ้อม ต้องใช้เวลากว่าจะทำได้ ซึ่งนับเป็นการสร้างวินัยในตนเองไปในตัว เมื่อทำได้สำเร็จ เด็กๆ จะเกิดความภูมิใจ มั่นใจในตัวเอง และกล้าแสดงออก
ทักษะด้านสังคม เพราะการเล่นดนตรี เด็กๆ จะต้องมีการเล่นร่วมกับคนอื่นๆ เป็นการสร้างมิตรภาพ ได้เรียนรู้การเข้าสังคม การทำงานเป็นทีม มีระเบียบวินัย และมีความรับผิดชอบ

ดนตรีแบบไหนที่เหมาะสมสำหรับเด็ก

ไม่ใช่ว่าเพลงทุกเพลงจะเหมาะกับเด็กไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา หรือจังหวะ แต่เพลงเด็กควรเป็นเพลงหรือเป็นดนตรีที่เด็กสามารถแสดงออกได้ตามความพร้อม การรับรู้ และตามการสนใจของเด็ก เด็ก ๆ ถึงจะรู้สึกสนุกและอยากมีส่วนร่วม ซึ่งเพลงหรือดนตรีที่เหมาะกับเด็ก ควรมีคุณสมบัติ ดังนี้

เพลงที่มีองค์ประกอบที่ดี

จังหวะของดนตรีควรเป็นจังหวะที่ไม่เร่งรัดเกินไป ไม่กระแทกกระทั้น ตะโกน ไม่รุนแรง และมีเนื้อร้องที่ดี ไม่หยาบคาย

เพลงที่มีความสดใสและจริงใจ

เนื้อเพลงควรมีความเหมาะสมกับเด็ก อาทิ เนื้อเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ บ้าน และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่เด็กสัมผัสได้ ไม่ควรเลือกเนื้อเพลงที่มีเรื่องราวห่างจากตัวเด็กหรือมีเนื้อหาที่โตกว่าจนเด็กไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะเหล่านี้จะส่งผลต่อความคิดและจิตใจที่บริสุทธิ์ของเด็ก

เพลงที่ส่งเสริมจริยธรรมพื้นฐานของมนุษย์

เช่น เพลงที่ส่งเสริมด้านการเป็นเด็กดี ความซื่อสัตย์ ความรัก ความสามัคคี และการมีน้ำใจ เป็นต้น

เพลงที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

เช่น เพลงแปลงกายเป็นสัตว์หรือสิ่งของต่าง ๆ เช่น ให้แปลงเป็นสิงโต เป็นหนู เด็ก ๆ ก็จะทำท่าสิงโตขู่คำราม เป็นต้น ซึ่งเพลงแนวนี้จะไม่มีถูกหรือผิดในการแสดงออก เพียงแต่เป็นการฝึกทางด้านกระบวนการทางความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น

ดนตรีนอกจากจะให้ความบันเทิงแล้วยังช่วยในเรื่องการพัฒนาสมองของลูกน้อยได้อย่างดีอีกด้วย ได้ฝึกสมาธิและด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพราะ “การเล่น ก็คือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP