มาสร้างเกราะให้ลูกด้วยความมั่นใจและความรับผิดชอบ

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

คุณพ่อคุณแม่มักจะเคยชินกับการสอนลูกให้เรียนเก่ง ฉลาด น่ารัก ไม่ดื้อไม่ซน เรียบร้อย และให้พยายามทำกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ดี จนบางครั้งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นในตัวลูกของคุณได้แต่อาจจะเกิดขึ้นมาอย่างผิดวิธี เกิดขึ้นมาโดยการสอนในแบบที่ผิดไม่ว่าจะเป็นการบังคับขู่เข็ญ สร้างความอึดอัดใจให้ลูก ถ้าไม่ทำตามก็กลัวจะโดนลงโทษ จนทำให้ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะฝังใจและติดตัวไปในตอนที่ลูกโตได้ และแน่นอนว่าความรู้สึกเหล่านี้ย่อมไม่เป็นผลดีกับตัวของเขาและคนรอบข้างแน่นอน

ดังนั้นสิ่งที่ควรคอยสอนและฝึกลูกนั้นควรจะเป็นพื้นฐานที่จะสามารถต่อยอดพฤติกรรมต่างๆ ได้นั่นก็คือ การสอนให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเองและมีความรับผิดชอบ เพราะสองสิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของการกระทำต่างๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

การมีความเชื่อมั่นในตัวเองหรือที่เรียกว่า Self Confidence ถือเป็นจุดเริ่มต้นแรกที่จะทำให้เด็กมีทักษะด้านการพึ่งตนเอง เริ่มมีความรับผิดชอบตามมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะครอบคลุมทั้งในเรื่องที่บ้าน ที่โรงเรียน การใช้ชีวิตในสังคม และทำให้ลูกสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ง่ายและเร็วขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งเห็นผลเร็วแน่นอน และสิ่งที่จะทำให้ความมั่นใจและความรับผิดชอบฝังเป็นนิสัยประจำตัวลูกได้นั้นก็มาจากตัวอย่างที่อยู่ใกล้ๆ ตัวอย่างคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง แล้วจะเริ่มจัดลำดับความสำคัญในการสอนอย่างไรดีวันนี้เรามีค่อยๆ เรียนรู้ไปด้วยกัน

เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้คุณพบกับลูกคนใหม่ที่มั่นใจและรับผิดชอบมากขึ้น

1.เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำในกิจกรรมหรือสิ่งที่ชอบ

เป็นจุดแรกที่คุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตให้ดีว่าลูกชอบทำอะไรตามธรรมชาติ เช่น ถ้าเปิดเพลงแล้วเขาชอบร้องตาม ชอบเต้น โดยที่เราไม่ต้องสอนนั่นแสดงว่าเขามีความสนใจในด้านนี้อยู่บ้าง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรส่งเสริมไม่ว่าจะเป็นการพาไปเรียนเพิ่มเติม พาไปในที่ที่มักจัดกิจกรรมเหล่านี้เพื่อให้ลูกได้แสดงออกสร้างความมั่นใจให้ตัวเองและเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้เห็นถึงความสามารถของลูกอีกด้วย

2.ปล่อยให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกายตามจินตนาการ

เด็กๆ ในวัยประมาณช่วงอนุบาลจะชอบฟังนิทาน เรื่องเล่าต่างๆ จากคุณพ่อคุณแม่และเมื่อได้ฟังอยู่นั้นก็มักจะชอบเคลื่อนไหวร่างกายตาม นั่นคือการเคลื่อนไหวตามสิ่งที่จินตนาการของเขาคิด คุณพ่อคุณแม่ก็ควรปล่อยให้เขาทำอย่างเต็มที่หรืออาจจะช่วยส่งเสริมจินตนาการด้วยการเล่าด้วยน้ำเสียงที่เข้ากับเหตุการณ์ที่เล่าอยู่มากขึ้นเพื่อสร้างความสนุกและทำให้ลูกรู้ว่าคุณก็มีความรู้สึกไปพร้อมๆ กับเขาเช่นกัน

3.สอนในเริ่มรับผิดชอบงานบ้าน

เด็กส่วนใหญ่มักจะชอบมีพฤติกรรมเลียนแบบคุณพ่อคุณแม่ควรทำงานบ้านให้เขาเห็นเยอะๆ และเมื่องานไหนที่เห็นว่าลูกเริ่มทำตามก็ลองมอบหมายงานนั้นให้เขาได้รับผิดชอบ ในส่วนนี้จะทั้งในเรื่องของการมีความผิดชอบ และทักษะการเคลื่อนไหวด้านร่างกายต่างๆ ได้อีกด้วย

4.สอนให้อดออมเองเพื่อซื้อของที่อยากได้

ในส่วนนี้หลักๆ ลูกจะเริ่มรู้จักการออมและเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้นว่ามีความสำคัญและเมื่อเขามีความต้องการอยากได้อะไรและนำเงินที่ออมไปซื้อมาได้ก็จะทำให้เขาเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและก็จะทำให้เกิดพฤติกรรมการออมซ้ำๆ จนเป็นนิสัยได้นั่นเอง

5.ชมเขาด้วยเมื่อเขาทำได้ดี

การชมลูกนั้นคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นเหมือนการทำให้ลูกเคยตัวแต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นการได้รับคำชมในสถานการณ์ที่ควรได้รับจริงๆ เช่น ทำงานที่ต้องรับผิดชอบเสร็จ ช่วยเหลือคนอื่น สิ่งเหล่านี้พอทำแล้วได้รับคำชมก็จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและอยากทำต่อไป

6.ชวนกันไปซื้อของใช้แล้วให้ลูกช่วยเก็บเข้าที่

แน่นอนว่าเป็นกิจกรรมของครอบครัวอยู่แล้วที่จะต้องมีการซื้อสิ่งของเครื่องใช้เข้าบ้านอยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็น สบู่ แชมพู ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สิ่งเหล่านี้ลองชวนลูกมาจดรายการของที่ต้องซื้อและพอไปซื้อกลับมาถึงบ้านแล้วก็ลองให้ลูกนำสิ่งเหล่านั้นไปวางไว้ในที่เก็บ ส่วนนี้จะช่วยสอนให้เขามีความรับผิดชอบ ช่างสังเกตสิ่งต่างๆ มากขึ้น เพราะเมื่อสิ่งของเครื่องใช้ตัวไหนขาดเขาก็อาจจะสังเกตและจดให้คุณเพื่อไปซื้อได้

7.สอนให้กล้าผิดแล้วยอมรับ

เรามักจะชอบเห็นเด็กๆ หลายคนเมื่อทำความผิดแล้วนั้นจะไม่กล้ารับ โยนความผิด สิ่งเหล่านี้เกิดมาจากความกลัวการจะโดนลงโทษนั่นเอง ดังนั้นหากเขาทำความผิดอะไรคุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องสอนให้เขากล้ายอมรับและเมื่อกล้ายอมรับแล้วก็ควรชื่นชมเพื่อให้รู้ว่าการยอมรับความผิดนั้นเป็นสิ่งที่ดีเป็นการกระทำที่แสดงถึงความรับผิดชอบ แต่ถ้าเอาแต่ลงโทษก็จะได้แต่ความกลัวมาแทนความรับผิดชอบ

8.สอนให้เป็นผู้นำและสอนให้รู้จักเป็นผู้ตาม

ให้เขาได้ลองเป็นคนเลือกสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองให้เริ่มจากเรื่องง่ายๆ อย่างการเลือกเสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า อุปกรณ์ส่วนตัวต่างๆ ด้วยตนเอง พอเริ่มพัฒนาก็เริ่มให้เลือกในสิ่งที่ยากขึ้นพร้อมขอเหตุผล เช่น เอาที่เที่ยวมาให้เลือก เมื่อเลือกแล้วก็ถามถึงเหตุผล และเริ่มสอนให้รู้ด้วยว่าการเลือกนั้นบางครั้งอาจจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลายคนทุกอย่างที่เลือกอาจไม่เป็นตามต้องการ ลูกต้องรู้จักการยอมรับในส่วนนี้ด้วย

9.กุ๊กน้อยประจำบ้าน

คุณพ่อคุณแม่ลองผันตัวมาเป็นผู้ช่วยกุ๊กกันบ้างลองให้ลูกได้ลงมือทำและตัดสินใจโดยพยายามสอดแทรกความรู้ในเรื่องโภชนาการเข้าไปในส่วนนี้ด้วยเพื่อให้ลูกได้ทั้งความรู้ ทักษะด้านความมั่นใจ และทักษะในด้านการเคลื่อนไหวร่างกายอีกด้วย

มีทฤษฎีความต้องการพื้นฐานของมาสโลว์ มาสรุปให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าใจกันเพิ่มเติมด้วยว่า “ความเชื่อมั่นในตนเองนั้น สามารถปลูกฝังให้เกิดขึ้นได้ เพราะทุกคนในสังคมมีความปรารถนาที่จะได้รับความสำเร็จ ต้องการให้คนอื่นยอมรับกับความสำเร็จของตนด้วย ถ้าความต้องการนี้ได้รับการตอบสนองอย่างเพียงพอ จะทำให้บุคคลมีความเชื่อมั่นในตนเอง” ดังนั้นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมากถือว่าเป็นรากฐานของการเริ่มใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP