การคลอดแบบธรรมชาติมีดีมากกว่าที่คุณคิด

การคลอดและหลังคลอด

เมื่อใกล้กำหนดระยะเวลา 9 เดือนที่คุณแม่ต่างพากันอุ้มท้องมาเรื่องราวและวิธีการคลอดนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่คุณแม่หลายๆ คนเริ่มหันมาให้ความสนใจ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่ามีการคลอดแบบธรรมชาติและการคลอดโดยการผ่าคลอด แล้วจะเลือกวิธีไหนกันดีสงสัยว่าการคลอดแบบธรรมชาตินั้นมีผลดีอย่างไรวันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงข้อดีของการคลอดแบบธรรมชาติและวิธีการเตรียมตัวเมื่อคุณแม่ได้ตัดสินใจกันแล้วว่าการคลอดแบบธรรมชาตินี่แหละที่จะเลือก ถ้าเป็นอย่างนั้นเรามาค่อยๆ รู้ไปพร้อมๆ กันเลยว่าการคลอดแบบธรรมชาติจะให้ข้อดีอะไรกับคุณแม่ได้บ้าง

ข้อดีของการคลอดแบบธรรมชาติ

  1. การคลอดด้วยวิธีธรรมชาตินั้นจะมีความเสี่ยงจากอันตรายและผลข้างเคียงจากการทำคลอดต่อทั้งคุณแม่และคุณลูกน้อยกว่าแบบผ่าคลอดนั่นเอง ถ้าคุณแม่และลูกได้ตรวจสอบแล้วว่ามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและสามารถเลือกคลอดแบบธรรมชาติได้นั้นก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ
  2. การคลอดด้วยวิธีธรรมชาตินั้นคุณแม่จะรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาและสามารถปรับท่าทางการนอนให้สบายตัวได้ตลอดอีกด้วยและเมื่อถึงเวลาใกล้คลอดแล้วนั้นคุณแม่ก็ยังจะมีส่วนสำคัญในการช่วยเบ่งเพื่อให้ทีมแพทย์ได้ช่วยอีกแรงเพื่อที่จะให้ลูกออกมาอย่างปลอดภัยนั่นเอง
  3. ส่วนนี้คุณพ่อก็จะเข้ามามีส่วนร่วมได้เพื่อที่จะมาแบ่งเบาความรู้สึกกดกันและเจ็บปวดของคุณแม่ในขณะที่กำลังคลอดถือว่าเป็นการช่วยเพิ่มความรักความเข้าใจกันได้อีกแบบหนึ่งเช่นกัน
  4. ความภูมิใจของการได้ให้กำเนิดลูกด้วยตนเองเป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณแม่ที่มีลูกคนต่อไปก็เลือกที่จะคลอดด้วยวิธีนี้เช่นกันเพราะว่ารู้สึกภูมิใจที่ได้กำเนิดลูกออกมาด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องใช้เทคนิคในการผ่าคลอดเข้ามาช่วย
  5. หลังคลอดคุณแม่สามารถฟื้นร่างกายได้เร็วกว่าแบบผ่าคลอดรวมทั้งยังมีอาการเจ็บแผลหลังคลอดน้อยกว่าอีกด้วย
  6. การคลอดแบบธรรมชาตินั้นจะทำให้เด็กเกิดกระบวนการขับของเหลวออกจากปอดช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหากับระบบหายใจตั้งแต่คลอดได้
  7. ลูกน้อยสามารถได้รับภูมิคุ้มกันจากช่องคลอดของแม่ตั้งแต่แรกเกิดทำให้เริ่มมีภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยบ่อยเมื่อโตขึ้นอีกด้วย

แล้วถ้าอยากคลอดแบบธรรมชาติควรเตรียมตัวกันอย่างไร?

ขั้นตอนแรกต้องเริ่มจากการที่คุณแม่นั้นต้องเลือกโรงพยาบาลที่ไว้ใจและจากนั้นก็เริ่มปรึกษาวางแผนกับทีมแพทย์และแจ้งถึงความต้องการในการคลอดต่างๆ ของคุณแม่ให้กับทีมแพทย์ฟังอย่างชัดเจน รวมทั้งตรวจสอบร่างกายและตรวจสอบว่าต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์ใดๆ ในการทำคลอดแบบธรรมชาติในครั้งนี้บ้าง

นอกจากนี้เมื่อคุยและตกลงกับทีมแพทย์ได้เรียบร้อยแล้วว่าจะเลือกใช้วิธีการคลอดแบบธรรมชาติคุณแม่ก็จำเป็นที่จะต้องกลับมาเตรียมตัวและศึกษาข้อมูลพร้อมทั้งทำตามขั้นตอนที่แพทย์แนะนำให้ฝึกเอาไว้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในระหว่างคลอด การเตรียมตัวรับมือกับปัญหาต่างๆ เหล่านี้ไว้ก่อนนั้นจะช่วยลดความกังวลเมื่อถึงวันคลอดจริงได้ เพราะเมื่อเกิดความเครียดและความกังวลแล้วนั้นอาจจะส่งผลไปถึงฮฮร์โมนความเครียดที่ส่งผลให้กระทบต่อการหดรัดตัวของมดลูกได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันจริงแล้วนั้นอาจจะมีหลากหลายปัจจัยที่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการคลอดไปเป็นแบบผ่าคลอดซึ่งคุณแม่ก็ควรศึกษารูปแบบการคลอดเอาไว้ทั้งสองแบบเพื่อที่จะพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง

การคลอดลูกนั้นถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญและต้องรอบคอบพร้อมทั้งต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างมากเพราะมีหลากหลายปัจจัยที่อาจแทรกเข้ามาได้อย่างไม่คาดคิด คุณแม่จำเป็นที่จะต้องดูแลร่างกายของตัวเองและลูกให้แข็งแรง พร้อมทั้งหมั่นไปตรวจเช็คร่างกายและทำตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อวันที่ลูกน้อยของคุณลืมตาออกมาดูโลกจะเป็นวันที่มีความสุขที่สุดของครอบครัวคุณนั่นเอง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP