รู้สึกหนาวสั่นหลังคลอด เพราะอะไร? หรือเพราะไม่ได้อยู่ไฟ?

การตั้งครรภ์
JESSIE MUM

ขณะตั้งครรภ์คุณแม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ แต่ไม่เพียงเท่านั้น แม้หลังคลอดก็ยังมีคุณแม่บางรายที่ต้องเผชิญกับอาการหนาวสั่นอีก อาการนี้เกิดจากอะไร? เกิดจากการที่คุณแม่ไม่ได้อยูไฟจริงหรือเปล่า?

อาการหนาวสั่นหลังคลอด คืออะไร?

อาการหนาวสั่นที่เกิดขึ้นมีทั้งที่แบบเกิดได้ทันทีหลังคลอดหรือหลังคลอดไปแล้ว 6 สัปดาห์ สำหรับคุณแม่ที่เกิดขึ้นทันทีหลังคลอด นั่นเป็นเพราะว่า ระหว่างการคลอดคุณแม่ต้องเสียเลือดมาก ร่างกายยังต้องการการปรับตัว จึงทำให้คุณแม่บางรายรู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีไข้ และหนาวสั่นอยู่ข้างใน โดยมากกรณีเช่นนี้จะเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง หลังคลอด จากนั้นอาการก็จะดีขึ้น

อาการหนาวสั่นหลังคลอด เกิดจากอะไร?

อาการหนาวสั่นหลังคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ขณะตั้งครรภ์นั้น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายคุณแม่จะสูงมาก หน้าที่สำคัญของฮอร์โมนนี้คือ การกักเก็บน้ำสะสมไว้ในร่างกาย เพื่อทดแทนการเสียเลือดขณะคลอด และป้องกันความดันตก ดังนั้น เมื่อคลอดลูกแล้วฮอร์โมนตัวนี้จะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คุณแม่มีอาการหนาวสั่นนั่นเอง โดยจะเกิดขึ้นทันทีหลังคลอด ไปจนถึง 3 วัน หรือบางรายอาจถึง 6 เดือน (หนาวเป็นช่วง ๆ)

เต้านมคัดมาก

ธรรมชาติของร่างกาย เมื่อคุณแม่คลอดลูกแล้ว ร่างกายก็จะเข้าสู่กระบวนการการผลิตน้ำนมโดยอัตโนมัติ ในคุณแม่บางรายอาจมีกรณีที่ไม่ได้สามารถให้นมลูกได้ทันทีหลังคลอดหรือภายในวันแรกหลังคลอด จึงทำให้เต้านมคัดตึงมาก และเจ็บ ส่งผลให้ไข้ขึ้น และหนาวสั่นได้ หากเป็นเช่นนี้แนะนำว่าควรปั๊มออกก่อน หรือหากสามารถให้นมลูกได้เลยก็ให้ลูกเข้าเต้าทันทีค่ะ เมื่อเต้านมไม่คัดตึงแล้ว อาการหนาวสั่นก็จะลดลงได้เอง

เหนื่อยล้าจากการคลอด

กรณีที่คุณแม่ใช้การคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ คุณแม่จึงต้องใช้แรงในการเบ่งคลอดมาก ผนวกกับการเสียเลือดมาก ร่างกายทุกส่วนทำงานหนัก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ จึงทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการหนาวสั่นได้

มดลูกติดเชื้อ

มักเกิดในกรณีที่คุณแม่มีปัญหาระหว่างการคลอด ได้แก่ น้ำเดินนาน, ตรวจภายในบ่อย, หรือมีการทำหัตถการต่าง ๆ อาทิ การใช้คีมคีบช่วยคลอด รวมไปถึงคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวบางโรค เช่น โรคเบาหวาน, โรคเอสแอลดี เป็นต้น คุณแม่กลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดมดลูกอักเสบได้ค่ะ อาการที่พบคือ คุณแม่จะมีเลือดออกมาผิดปกติขณะคลอด จนทำให้มีไข้ และหนาวสั่นได้

อาการหนาวสั่น เพราะไม่ได้อยู่ไฟจริงหรือ?

การที่คุณแม่รู้สึกหนาวสั่น สะท้าน มือเย็น ปากเขียว เกิดจากการที่ไม่ได้อยู่ไฟจริงไหม? ส่วนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุได้ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่จากข้อมูลของมูลนิธิโรงพยาบาลอภัยภูเบศร กล่าวถึง อาการหนาวใน ในตำราแพทย์แผนไทยไว้ว่า การคลอดลูกทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อน เสียธาตุไฟไป ร่างกายจึงเกิดอาการหนาวสั่น หรือหนาวในได้ เนื่องจากร่างกายขาดสมดุล นอกจากนี้อาการหนาวสั่นนี้ยังเกิดได้กับผู้ที่กำลังจะหมดประจำเดือนอีกด้วย

วิธีดูแลตัวเอง เมื่อมีอาการหนาวสั่น

หากคุณแม่มีอาการหนาวสั่น สามารถดูแลตัวเองได้ ดังนี้

  • หลังกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว ให้รักษาความอบอุ่นของร่างกายไว้ด้วยการสวมเสื้อผ้า หรือห่มผ้าไว้ หากนอนในห้องแอร์ คุณแม่ควรเปิดแอร์ให้เย็นมาก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ราว ๆ 25-27 องศาเซลเซียส
  • อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว, ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ผ่อนคลาย รวมถึงช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี
  • ดื่มน้ำให้มาก เนื่องจากน้ำจะช่วยระบายความร้อนในร่างกายได้ดี และยังเป็นการช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายได้อีกด้วย
  • หากคุณแม่ทำทุกวิถีทางแล้วแต่อาการหนาวสั่นก็ยังไม่ดีขึ้น เป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

อาการหนาวสั่น หรือหนาวในอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณแม่ทุกคนค่ะ เนื่องจากมีหลายสาเหตุและหลายตัวแปร บางรายเกิดพักเดียวในขณะที่บางรายเกิดขึ้นเป็นสัปดาห์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คุณแม่ลองสังเกตตัวเองนะคะ ว่าถ้าหากมีอาการหนาวสั่นแล้ว พยายามทำทุกทางแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้พแพทย์ทันทีค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP