คนท้องออกกำลังกายได้ไหม ท่าไหนที่ควรเลี่ยง

สุขภาพช่วงตั้งครรภ์
JESSIE MUM

การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี แต่ในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นการออกกำลังกายควรเลือกท่าออกกำลังกายที่ปลอดภัย และเสริมความแข็งแรงให้กับคุณแม่ ที่สำคัญ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการออกกำลังกายให้มากขึ้น

สารบัญ

คำแนะนำในการออกกำลังกายสำหรับหญิงตั้งครรภ์

แม้คุณแม่จะตั้งครรภ์ก็ยังสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างปกติ ตราบเท่าที่ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเกินไป ซึ่งวันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ดังนี้

ออกกำลังกายอย่างช้า ๆ

คุณแม่ควรค่อย ๆ เริ่มออกกำลังกายอย่างช้า ๆ ซึ่งวิธีสังเกตง่าย ๆ ก็คือ หากขณะที่คุณแม่กำลังออกกำลังกายอยู่นั้น คุณแม่ยังสามารถพูดคุยได้อยู่โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยแบบนี้ถือว่ากำลังดีค่ะ แต่ถ้ารู้สึกว่าพูดไม่ออก หายใจไม่ทัน แสดงว่าคุณแม่ออกกำลังกายหนักเกินไป

ไม่ควรหักโหมหากก่อนตั้งครรภ์ไม่เคยทำมาก่อน

หากคุณแม่ต้องการออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์ ในขณะที่ก่อนหน้าการตั้งครรภ์ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน คุณแม่ควรเริ่มจากการออกกำลังกายเบา ๆ และช้า ๆ ก่อนนะคะ แต่ถ้าหากคุณแม่ต้องการที่จะออกกำลังกายอย่างการวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เดิน หรือเข้าคอร์สแอโรบิก ควรแจ้งให้ผู้สอนทราบล่วงหน้าว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ และควรเริ่มออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องไม่ควรให้เกิน 15 นาที ด้วยความถี่ที่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังจากนั้น ร่างกายเริ่มชินแล้วค่อยเพิ่มเป็นอย่างน้อย 30 นาที ในความถี่ 4 ครั้งต่อสัปดาห์

อย่าลืมอบอุ่นร่างกาย

ก่อนออกกำลังกาย คุณแม่ควรอบอุ่นร่างกายหรือ Warm Up ก่อนทุกครั้ง รวมถึงทำให้ร่างกายเย็นลง หรือ Cool Down เมื่อเสร็จจากการออกกำลังกายทุกครั้งเช่นกัน

เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

หากวันไหนที่ไม่ได้ไปออกกำลังกาย ให้คุณแม่เคลื่อนไหวร่างกายในทุก ๆ วันอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินวันละ 30 นาที แต่ถ้าหากคุณแม่รู้สึกว่าหนักไปก็สามารถเวลาลงได้ค่ะ

เลี่ยงการออกกำลังกายในวันที่อากาศร้อน

ลำพังว่าอากาศร้อนก็ทำให้เหงื่อออกมากพอแล้ว ดังนั้น คุณแม่ควรเลี่ยงการออกกำลังกายในวันดังกล่าว เพื่อไม่ให้ร่างกายร้อนและเสียเหงื่อมากเกินไป อาจทำให้เพลียได้

ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอ

หากคุณแม่เลือกเข้าคอร์สออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้เพียงพอ ทั้งนี้ ผู้สอนควรรู้ว่าคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ รวมถึงอายุครรภ์ด้วย

เลือกออกกำลังกายในน้ำ

เพราะการออกกำลังกายในน้ำ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการออกกำลังที่ดี เพราะน้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักตัวและน้ำหนักท้องได้ดี อีกทั้งน้ำก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นได้อีกด้วย

เพิ่มความระมัดระวังไม่ให้ล้ม

โดยเฉพาะหากกิจกรรมที่คุณแม่เลือกออกกำลังกายเป็นพวกขี่ม้า ยิมนาสติก หรือขี่จักรยาน เหล่านี้คุณแม่ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะหากล้ม อาจส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ได้

ท่าออกกำลังกายที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์แข็งแรง

ท่าเสริมความแข็งแรงของหน้าท้อง

  • ให้คุณแม่คุกเข่า โดยที่มือทั้งสองข้างยันพื้น แผ่นหลังยืดตรงขนานกับพื้น
  • แขม่วกล้ามเนื้อหน้าท้อง และยกหลังขึ้นด้านบน งอลำตัว ปล่อยศีรษะให้ผ่อนคลาย สบาย ๆ ค้างท่านี้ไว้สักครู่
  • กลับสู่ท่าเริ่มต้นช้า ๆ
  • ทำซ้ำตั้งแต่แรกทั้งหมดอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องอีก 10 ครั้ง

ท่าบริหารหมุนด้านหน้า-หลัง ของกระดูกเชิงกราน

  • คุณแม่ยืนชิดกำแพงโดยที่ให้หัวไหล่และก้นชิดกำแพง
  • ค่อย ๆ ย่อเข่าลง
  • ให้หลังแนบกับกำแพง
  • ค้างท่านี้ไว้ 4 วินาที จากนั้นผ่อนคลายร่างกาย
  • ทำซ้ำตั้งแต่แรกอย่างต่อเนื่องอีก 10 ครั้ง

การออกกำลังกายที่คนท้องควรเลี่ยง

เลี่ยงการนอนราบกับพื้น

โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ที่ 16 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากขนาดท้องจะไปกดทับเส้นเลือดสำคัญ ส่งผลให้เลือดไหลกลับไปที่หัวใจ อาจทำให้เป็นลมได้

เลี่ยงการออกกำลังกายที่เสี่ยงกระแทก

เช่น มวยเตะ ยูโด เทควันโด หรือสควรซ

เลี่ยงการดำน้ำ

เนื่องจากลูกในท้องยังไม่คุ้นชินและไม่สามารถทนต่อโรคที่เกิดจากการลดความกดอากาศ รวมถึงภาวะฟองอากาศในเลือดได้

เลี่ยงการออกกำลังกายในบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,500 เมตร

จนกว่า…จะสามารถปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพอากาศแล้ว เพราะอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคแพ้ความสูง (Altitude Sickness) ได้ทั้งคุณแม่และลูกน้อย

การออกกำลังกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ควรเริ่มจากเบา ๆ ก่อน เป็นการยืดเส้นยืดสาย และที่สำคัญควรมีคนดูแลอยู่ใกล้ ๆ หรือถ้าเป็นสามีจะยิ่งดีมากค่ะ เพราะเมื่อคุณแม่มีความสุข ลูกน้อยในท้องก็จะมีความสุขไปด้วย กลับกันก็ยังมีสิ่งที่คุณพ่อบ้านควรระมัดระวัง เนื่องจากช่วงที่คุณแม่ท้องนั้นอารมณ์จะอ่อนไหวง่ายมาก (คลิกที่นี่ >> “สามีควรรู้ สิ่งที่ห้ามทำ ห้ามพูดเมื่อภรรยาท้อง


คำพูดเพียงบางคำของสามี อาจฝังใจและทำร้ายจิตใจคุณแม่ตั้งครรภ์ได้มากทีเดียว มีคำพูดแบบไหนบ้างที่คุณพ่อไม่ควรพูด คลิกที่นี่

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP