คนท้องหายใจไม่สะดวก จะส่งผลต่อลูกในท้องไหม รับมืออย่างไรดี

สุขภาพช่วงตั้งครรภ์

อาการของคนท้องหายใจได้ไม่สะดวก หรือหายใจได้ไม่อิ่มมักเกิดขึ้นได้ในสัดส่วน 3 ใน 4 ของแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งอาการหายใจไม่สะดวกนี้ทำเอาคุณแม่หลาย ๆ คนเป็นกังวลมาก กังวลว่าลูกจะได้ออกซิเจนไม่เพียงพอ กลัวว่าลูกน้อยในท้องจะได้รับอันตราย ซึ่งวันนี้ เรามีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝาก เพื่อให้คุณแม่ได้เข้าใจถึงสาเหตุ และรับมือกับอาการนี้ได้อย่างถูกต้องค่ะ

สาเหตุที่คนท้องหายใจไม่สะดวก

อาการของแม่ท้องที่หายใจไม่สะดวกสามารถเริ่มเห็นอาการได้ตั้งแต่การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรกไปจนสิ้นสุดระยะการตั้งครรภ์เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งเราจะไปเริ่มที่ไตรมาสแรกกันก่อนเลย

การตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก

ทันทีที่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่ก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงโดยระดับของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นสมองให้มีความต้องการออกซิเจนมากขึ้น เพื่อให้ลูกในครรภ์มีออกซิเจนที่เพียงพอต่อการหายใจ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แม่ท้องต้องหายใจลึก ๆ และถี่อยู่เสมอ ทั้งนี้ อาการที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกนี้อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่บางรายเท่านั้น

การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่สอง

เข้าสู่ระยะการตั้งครรภ์ในไตรมาสที่สอง คุณแม่บางรายจะเริ่มมีอาการที่ชัดเจนขึ้น เพราะคุณแม่จะมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น โดยเฉพาะหากคุณแม่คนไหนที่ตั้งครรภ์ลูกแฝด เนื่องจากมดลูกมีการขยายใหญ่มากขึ้น ผนังทรวงอกก็ขยายมากขึ้นเช่นกัน เพื่อเป็นการเพิ่มความจุของปอด ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่อึดอัดนะคะ

การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่สาม

มดลูกยังมีการขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไปเบียดอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงกระบังลมก็ถูกดันให้สูงขึ้นเช่นกัน จึงทำให้คุณแม่หายใจไม่สะดวก หรือหายใจได้ไม่อิ่มนั่นเอง

วิธีรับมือคนท้องหายใจไม่สะดวก

หากคุณแม่เริ่มรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวก หรือหายใจไม่อิ่ม ให้รับมือด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

นั่งพัก หลังตรง

หากคุณแม่เริ่มรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวก ให้นั่งพักที่เก้าอี้ที่มีพนักพิงหรือโซฟา สูดหายใจเข้าลึก ๆ นั่งเอนตัวเล็กน้อย อกผายไหล่ผึ่ง จะช่วยให้ปอดขยาย ส่งผลให้มีความจุอากาศในปอดนั้นมากขึ้นตามไปด้วย

เคลื่อนไหวให้ช้าลง

เมื่อมดลูกของคุณแม่เริ่มขยายใหญ่ขึ้น มีน้ำหนักมากขึ้น คุณแม่ควรมีการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันให้ช้าลง ทำอะไรอย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่คุณแม่จะได้ไม่รู้เหนื่อยเกินไป สำคัญ การเคลื่อนไหวช้า ๆ ถือเป็นการฝึกสติเราได้อีกต่างหากนะคะ

หากิจกรรมคลายเครียด

ในระหว่างที่คุณแม่นั่งพักอยู่นั้น ให้ลองหากิจกรรมที่คุณแม่ชอบ ที่ทำแล้วคลายเครียดหรืออาจเป็นการนอนหลับพักผ่อนเลยก็ได้ค่ะ

ยืดเส้นยืดสายเบา ๆ

คุณแม่ท้องสามารถออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายได้เบา ๆ ค่ะ อาจเริ่มจากโยคะ หรือเดินออกกำลังกายเบา ๆ หรือจะว่ายน้ำก็ได้เช่นกัน เพื่อช่วยขยายปอด ซึ่งทำได้ด้วยการแกว่งแขน ดังนี้

  • เตรียมท่าด้วยการยืนกางขาให้มีความกว้างเท่าหัวไหล่
  • ยกแขนทั้งสองข้าง ขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมกับสูดหายใจเข้า
  • แกว่งแขนทั้งสองข้างไปข้างหลัง พร้อมกับหายใจออก
  • ทำเช่นนี้สลับกันไป ขึ้น-ลง ประมาณ 5-10 ครั้ง

เข้าใจ และอดทน

อาการที่คุณแม่ท้องหายใจไม่สะดวกเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ท้องส่วนใหญ่ค่ะ อาการนี้จะหายไปก็ต่อเมื่อหลังคลอด ดังนั้น ความเข้าใจในอาการที่เกิดขึ้นนี้ และการใช้ความอดทนก็จะทำให้คุณแม่ไม่เครียด และจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อคุณแม่อารมณ์ดี ก็จะส่งผลให้ลูกน้อยมีอารมณ์ดีด้วยเช่นกันนะคะ

ให้นอนตะแคง

หากคุณแม่เริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวก นอกจากการนั่งพักแล้ว คุณแม่สามารถใช้วิธีนอนก็ได้เช่นกัน แต่ควรเป็นท่านอนตะแคงซ้าย เนื่องจากเป็นท่าที่มดลูกจะไม่กดทับเส้นเลือด จะทำให้คุณแม่หายใจสะดวกขึ้น และเลือดก็จะไหลเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

คนท้องหายใจไม่สะดวก จะส่งผลต่อลูกในท้องไหม

อาการหายใจไม่สะดวกนี้ ไม่ส่งผลต่อลูกน้อยแต่อย่างใดค่ะ เพียงแต่อาจทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวเท่านั้น ยกเว้นว่าถ้าคุณแม่รู้สึกมีปัญหาในการควบคุมการหายใจ หรือถ้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

คนท้องหายใจไม่สะดวก อาการที่ต้องพบแพทย์

  • เริ่มมีอาการหายใจไม่สะดวกที่รุนแรงขึ้น หรือมีอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
  • มีอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
  • รู้สึกเจ็บหน้าอก หรือรู้สึกเจ็บขณะหายใจ
  • ผิวหนังซีด
  • มีอาการไอเรื้อรัง มีไข้ หนาวสั่น
  • รู้สึกวูบ ๆ คล้ายจะเป็นลม

อาการที่คนท้องหายใจไม่สะดวกแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับท้องปกติ แต่ทั้งนี้ คุณแม่ก็ไม่ควรละเลยที่จะสังเกตตัวเองด้วยนะคะ ซึ่งถ้าหากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP