โรค “มือ เท้า ปาก” คืออะไรทำไมเด็กๆ จะต้องระวัง

โรค
JESSIE MUM

โรคมือ เท้า ปาก (Hand Foot Mouth Disease) น่าจะเป็นชื่อของโรคที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ แต่คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนก็อาจยังจะสงสัยและยังไม่เข้าอย่างชัดเจนว่ามันคือโรคเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แล้วถ้าลูกเป็นแล้วจะรักษาและดูแลกันอย่างไร วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้ให้ชัดเจนเพื่อที่จะหาวิธีรับมือป้องกันรวมทั้งดูแลอย่างถูกต้องหากลูกบังเอิญต้องเจอกับโรคนี้เข้า

โรค มือ เท้า ปาก คืออะไร?

โรคนี้จะเป็นโรคที่พบมากในเด็กวัยอายุไม่เกิน 10 ปี โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ทำให้มีตุ่ม ผื่น หรือแผลอักเสบมีหนองที่ผิวหนังบริเวณมือ ฝ่ามือ เท้า ฝ่าเท้า และภายในปาก และอาการเหล่านี้ก็จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก แล้วยังชอบเกิดพร้อมไปกับอาการอื่นๆ อีกด้วย เช่น ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดท้อง เบื่ออาหาร เป็นต้น

โรคมือ เท้า ปาก นั้นถือเป็นโรคติดต่อและมักจะระบาดมากในช่วงฤดูฝนซึ่งก็สอดคล้องกับเป็นช่วงเปิดเทอมของโรงเรียนต่างๆ ในประเทศไทยพอดีจึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ลูกๆ จะได้รับโรคนี้ติดต่อมาจากเพื่อนๆ นั่นเอง จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ควรเฝ้าระวังกันเป็นพิเศษ

ป้องกันโรค มือ เท้า ปาก ได้อย่างไรบ้าง?

ในตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคนี้ได้ มีแต่เพียงเทคนิควิธีที่จะแนะนำเอาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองเอาไปปรับใช้กับลูกๆ ของคุณกัน เริ่มแรกเลยการสอนให้ลูกหมั่นล้างมือบ่อยๆ ก็เป็นการช่วยป้องกันเชื้อโรคได้เป็นอย่างดีและยังอาจช่วยป้องกันโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย นอกจากการล้างมือการหมั่นทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ทั้งในบ้านและของลูกให้สะอาดอยู่เสมอนั้นก็สามารถช่วยป้องกันได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน และคอยเน้นย้ำไม่ให้ลูกใช้อุปกรณ์การทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆ และหากเขาจะไอหรือจามควรมีผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู่พกไว้เพื่อจะสามารถหยิบมาปิดปากเอาไว้ได้ เป็นต้น

แล้วถ้าลูกเกิดติดโรคนี้มาแล้วจะมีอาการอย่างไร?

สิ่งที่จะมาเยือนร่างกายของลูกคุณเป็นอันดับแรกนั่นก็คือไข้ที่สูงที่ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอาการที่เพียงแค่สัมผัสตัวลูกดูก็จะรู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน จากนั้นลูกก้จะเริ่มมีอาการต่างๆ ตามมาเช่น เจ็บคอ เบื่ออาหาร ปวดท้อง เพลียอ่อนแรง หลังจากเริ่มมีไข้ได้ 1-2 วัน เขาก็จะเริ่มมีตุ่ม ผื่น แผลหนองอักเสบขึ้นตามผิวหนังทั้งที่มือ ฝ่ามือ เท้า ฝ่าเท้า รวมทั้งบริเวณปากทั้งภายนอกและภายในจึงเป็นที่มาของโรคมือ เท้า ปาก นั่นเอง

วิธีรักษาให้ลูกหายจากโรค มือ เท้า ปาก

อาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลนิดหน่อยเพราะว่าโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในทันทีและทำได้เพียงอยู่ที่บ้านหรือโรงพยาบาลเพื่อที่จะป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องระวังด้วยเช่นกันเพราะโรคนี้ผู้ใหญ่เองก็สามารถติดได้เช่นกัน

การดูแลคือการค่อยๆ บรรเทาด้วยยาต่างๆ ตามที่แพทย์สั่งและรอให้เชื้อไวรัสเหล่านี้ค่อยๆ หายไปเอง แต่ในกรณีที่ผ่านไป 7-10 วันแล้วนั้นอาการยังไม่ดีขึ้นและอาจจะทรุดลงด้วยนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้

โดยภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้นก็คือ ภาวะขาดน้ำ เนื่องจากเด็กๆ อาจจะเจ็บคอจนไม่อยากกินดื่มหรือทานอะไรเข้าไปจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอาการเล็บมือเล็บเท้าหลุด หรือภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส และภาวะสมองอักเสบ แต่อาการเหล่านี้ไม่ใช่อาการที่จะพบได้บ่อยมากนักหากคุณพ่อคุณแม่ดูแลและหมั่นพาไปพบแพทย์ก็สามารถอุ่นใจได้

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐยังเป็นประโยคที่ใช้ได้ดีกับทุกเพศทุกวัยและการที่ลูกน้อยของคุณร่างกายแข็งแรงห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บนั้นก็น่าจะถือเป็นลาภของคุณพ่อคุณแม่ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นการดูแลลูกและคอยหมั่นศึกษาวิธีการป้องกันลูกจากโรคภัยต่างๆ อยู่เสมอก็จะสามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่ในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดีแน่นอน

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP