เมื่อเข้าสู่วัยที่ลูกจะต้องเริ่มไปโรงเรียนก็เป็นช่วงที่ลูกกำลังจะต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ มากขึ้นทั้งการเข้าสังคม การช่วยเหลือตัวเอง การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ต่างๆ และลูกก็เริ่มจะมีการบ้านติดไม้ติดมือเป็นประจำ การบ้านมีจุดประสงค์ก็เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มและพัฒนาความรับผิดชอบให้ลูกแต่แน่นอนว่าอาจจะมีเด็กๆ หลายๆ คนงอแงไม่อยากทำการบ้านทั้งเหตุผลที่มีสิ่งที่น่าสนใจกว่าหรืออยากทำมากกว่ามารบกวน หรือเป็นความไม่เข้าใจในวิชาเหล่านั้นก็ตาม คุณพ่อคุณแม่คือคุณครูคนสำคัญเมื่อลูกอยู่บ้านและจำเป็นที่จะต้องงัดเคล็ดลับต่างๆ ออกมาทำให้ลูกมีความสุขและสนุกไปกับการทำการบ้าน แต่จะทำอะไรอย่างไรบ้างดีวันนี้เรามีเคล็ดลับมาฝากกันค่ะ
สารบัญ
นับ 1 2 3 ตามนี้แล้วลูกของคุณก็จะรักการทำการบ้านมากขึ้น
1.สร้างความคาดหวังและเป้าหมายที่ชัดเจนไว้กับลูก
แน่นอนว่าขั้นตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องมีส่วนร่วมด้วย เด็กๆ ยังไม่มีความเข้าใจว่าการทำการบ้านหรือการตั้งใจเรียนนั้นจะมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วก็คงต้องปล่อยให้เขาค่อยๆ เรียนรู้และเข้าใจไปด้วยตัวเอง แต่ระหว่างทางก็ไม่ควรเสียเวลาปล่อยลองคุยกับลูกและกำหนดเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจนกันดีกว่า เช่น เทอมนี้ลูกจะต้องเรียนได้เกรดไม่ต่ำกว่า 3.00 และทำการบ้านให้เสร็จได้ในทุกวันและอาจจะมีรางวัลเป็นแรงจูงใจเขาอีกทาง จนเมื่อเวลาผ่านไปลูกจะค่อยๆ ซึมซับและเริ่มกำหนดเป้าหมายและรางวัลให้ตัวเองได้ต่อไปในอนาคตนั่นเอง
2.อย่าลืมชมเชยลูก
ทุกคนเมื่อได้รับคำชมในสิ่งที่ตั้งใจและพยายามทำย่อมเกิดความรู้สึกดีและมันก็เป็นแรงใจที่ดีให้กับลูกได้อย่างแน่นอน เริ่มง่ายๆ ให้ลูกชอบการทำการบ้านด้วยการชมเชยลูกเมื่อลูกทำเสร็จภายในเวลาที่กำหนดในแต่ละครั้ง และอาจจะเปลี่ยนคำชมเป็นการให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม อ่านการ์ตูน ดูโทรทัศน์ เพราะมันทำให้เขาเรียนรู้ว่าเมื่อทำตามหน้าที่เสร็จและมีความรับผิดชอบแล้วเขาก็จะได้สิ่งที่ต้องการมาได้อย่างไม่ยากเย็น
3.ลูกทน…คุณก็ต้องทน
คุณพ่อคุณแม่คือความอบอุ่นใจของลูกและปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกไม่ค่อยอยากทำการบ้านก็เพราะว่าเขากลัวว่าถ้าทำการบ้านแล้วอาจจะพลาดอะไรสนุกๆ ที่ครอบครัวทำกันนั่นเอง ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างความอุ่นใจให้กับเขาแล้วว่าในเวลาที่เขากำลังทำการบ้านอยู่นั้นจะไม่มีอะไรพิเศษและสนุกไปกว่าการทำการบ้านอีกแล้ว แล้วจะทำอย่างไรดีคำตอบก็ง่ายๆ ทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตร อย่างเช่นช่วงหลังอาหารเย็นจะเป็นเวลาที่แต่ละคนแยกย้ายไปทำงานส่วนตัวให้เสร็จ คุณพ่อเคลียงาน คุณแม่ทำบัญชี และลูกก็ต้องทำการบ้าน เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนกำลังอดทนเพื่อทำหน้าที่ของแต่ละคนให้เสร็จนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ลูกจะอยากทำตาม เพราะเด็กมีพ่อแม่เป็นตัวอย่างของพฤติกรรมต่างๆ อยู่แล้วนั่นเอง
ถ้าจะรอให้ลูกเรียนรู้เองทั้งหมดบางกรณีอาจจะสายเกินไปคุณพ่อคุณแม่ควรนำทางลูกให้เดินไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสมแต่ก็ไม่ลืมที่จะรับฟังและให้อิสระกับเขาด้วย แม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างการทำการบ้านก็ตามบางทีเขาอาจจะมีเหตุผลที่ไม่ยอมทำการบ้านมากกว่าแค่ขี้เกียจหรืออยากดูโทรทัศน์ก็ได้ ลองสังเกตลูกและสอบถามรับฟังเขาด้วยความเข้าใจ นี่คือสิ่งที่ตะทำให้เขามีความมั่นใจในการทำเรื่องต่างๆ เพราะเขารู้ว่าจะมีพ่อแม่คอยให้คำปรึกษาและชี้แนะเขาอย่างดีเสมอนั่นเอง