สอนลูกให้เป็นเด็กดีตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัย มีเรื่องอะไรบ้าง

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

เด็กดี” ใคร ๆ ก็รักเด็กดี คุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้ลูกเป็นเด็กดี ทุกครอบครัวจึงพยายามสอนลูก สอนแล้วสอนอีก แต่เคยสงสัยกันไหมค่ะว่าต่อให้เราพูดจนปากเปียกปากแฉะแค่ไหน ทำไมลูกไม่ทำตามซักที หรือลูกดื้อ? เพราะคำถามนี้เองค่ะโน้ตจึงอยากจะมาแชร์ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ฟังกันค่ะว่า

“บางครั้งการให้ หรือการจะสอนอะไรลูกนั้น ควรพิจารณาซักนิดก่อนว่า ในวัยนั้น ๆ ของลูก เขาเข้าใจหรือรับคำสอนของคุณพ่อคุณแม่มากหรือน้อยแค่ไหน”

พัฒนาการด้านสังคมของลูกในแต่ละช่วงวัย

ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะปลูกฝังเรื่องอะไรให้ลูก โน้ตอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจในเรื่องพัฒนาการของลูกกันซักนิดค่ะ เพราะผลดีก็คือ ลูกสามารถรับคำสอนได้อย่างเข้าใจ และที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้มีต้องนั่งปากเปียกปากแฉะ พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า (ไม่เหนื่อยด้วยค่ะ^^)

พัฒนาการ วัยแรกเกิด – 1 ปี

เด็กในวัยนี้จะเริ่มจำชื่อตัวเองได้ ถ้าใครเรียกจะหันไปแล้วยิ้มให้ได้ เลียนแบบพฤติกรรมของผู้อื่น ติดแม่ กลัวคนแปลกหน้า สนใจการกระทำของผู้อื่น ชอบเล่น และชอบมีส่วนร่วม เด็กในวัยนี้ยังอยู่กับตัวเองเป็นหลัก

พัฒนาการ วัย 2 ปี

เริ่มนั่งเล่นกับผู้อื่นได้ แต่ยังต่างคนต่างเล่นอยู่ ยังยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง หวงของเล่น ไม่ยอมแบ่งของเล่นให้ใคร

พัฒนาการ วัย 3 ปี

สำหรับเด็กในวัยนี้ การเล่นร่วมกับผู้อื่นนั้นยังขึ้นอยู่กับอารมณ์ ยังชอบเล่นแบบคู่ขนานอยู่ ในบางครั้งจะชอบออกคำสั่ง เริ่มรู้จักการรอคอยมากขึ้น เริ่มเข้าใจและปฏิบัติตามกฎ กติกาง่ายๆ ได้ รู้จักทำงานที่ได้รับมอบหมาย เริ่มเรียนรู้ว่าสิ่งไหนเป็นของตนเอง สิ่งไหนเป็นของผู้อื่น

พัฒนาการ วัย 4 ปี

เริ่มเล่นร่วมกับผู้อื่นได้มากขึ้น แต่มักจะเป็นเพศเดียวกันมากกว่า ถ้าโกรธกัน แป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย กลับมาเล่นกันใหม่ได้ รู้จักการให้อภัย รู้จักการขอโทษ มีความรับชอบมากขึ้น รู้จักช่วยงานบ้านง่าย ๆ ได้ รู้จักเก็บของเล่นเอง มีมารยาทในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

พัฒนาการ วัย 5 ปี

เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น เล่นกับเพศตรงข้ามได้มากขึ้น เคารพกติกาในการเล่นมากขึ้น รู้จักการไหว้ผู้ใหญ่ เริ่มมองเห็นและเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น

เรื่องที่ควรสอนลูก หากต้องการให้ลูกเป็นเด็กดี

มาถึงตรงนี้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจเรื่องพัฒนาการพื้นฐานของลูกกันแล้ว เรามาดูกันต่อดีกว่าค่ะว่า เรื่องอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรวางพื้นฐานให้ลูก ถ้าต้องการให้ลูกเป็นเด็กดี

มารยาทขั้นพื้นฐาน

มารยาทพื้นฐานนับเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังตั้งแต่เล็ก ๆ ค่ะ มีเรื่องอะไรบ้าง? เช่น

  • การไหว้” เมื่อพบปะกับผู้ใหญ่ เด็กควรยกมือไหว้ทำความเคารพ
  • การขอโทษ” เมื่อลูกรู้ตัวว่าทำผิด ก็ควรขอโทษ หรือแม้แต่ในเรื่องของ
  • ความเกรงใจ หรือการเคารพสิทธิของผู้อื่น” หรือจะยกตัวอย่างให้เข้าใจกันง่าย ๆ เช่น การไปทานอาหารนอกบ้าน เด็ก ๆ ไม่ควรพูดส่งเสียงดัง หรือสร้างความรำคาญใจต่อผู้อื่น เป็นต้น

กาลเทศะ

เช่น การไม่เล่นหัวผู้ใหญ่คนอื่น (คือเด็กบางคนเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าลูกเล่นด้วย) การไม่พูดแทรกขณะที่คนอื่นพูด เป็นต้น ข้อนี้อาจจะยากหน่อยแต่อย่างน้อย ลูกก็จะเริ่มคุ้นเคย เข้าใจ และจะเริ่มปฏิบัติได้ง่ายขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นค่ะ

สอนให้มองมุมมองของคนอื่น

คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะมองมุมมองของคนอื่นบ้าง เพราะก่อนที่คนอื่นจะกระทำอะไรซักอย่างนั้น จะต้องผ่านกระบวนการทางความคิดก่อน แม้ว่าคน ๆ นั้นอาจทำไม่ถูกต้อง อย่างน้อยถ้าลูกเราเข้าใจว่าคนนั้นทำไปด้วยเหตุผลอะไร เราก็จะเข้าใจคน ๆ นั้นมากขึ้น เหล่านี้เองจะทำให้ลูกเป็นคนที่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น

การแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น

การแบ่งปัน” เป็นเรื่องที่ดี เพราะมันแสดงถึงการมีน้ำใจต่อกัน แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องให้ลูกแบ่งปันในทุกสิ่ง โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นของรักของหวงนะคะ

คนทุกคนย่อมมีสิ่งของที่ตัวเองรัก ไม่อยากแบ่งปันกับใคร ซึ่งถ้าหากคุณพ่อคุณแม่บังคับให้ลูกต้องแบ่งในทุกเรื่อง โดยเฉพาะสิ่งอันเป็นที่รัก สิ่งที่ได้คือ “ลูกจะเกลียดการแบ่งปัน เพราะการแบ่งปันเป็นการพรากสิ่งอันเป็นที่รักของเขาไป” เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเคารพในการตัดสินใจของลูกด้วยนะคะ

มาในเรื่องของ “การช่วยเหลือผู้อื่น” ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน แต่คงไม่ดีแน่หากผู้อื่นอาศัยความมีน้ำใจของลูกในการกระทำสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่ลูกไม่อยากทำ เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมสอนลูกเกี่ยวกับการกล้าปฏิเสธในสิ่งที่ลูกไม่อยากทำ และเป็นสิ่งที่ผิดด้วยนะคะ

สำนึกที่ดี

เริ่มจาก “การมีต้นแบบที่ดี” ก่อนค่ะ นั่นก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง การมี “สำนึกที่ดี” เช่น การทิ้งขยะให้ลงถังขยะ และถูกประเภท รวมถึงเรื่องของการเข้าคิว เป็นต้น การเป็นต้นแบบที่ดี จะช่วยให้ลูกเข้าใจและซึมซับคำสอนได้มากกว่าการพูดอย่างเดียว

การจะปลูกฝังให้ลูกเป็นเด็กดีในเรื่องใดซักเรื่องต้องอาศัยระยะเวลา แต่…สิ่งที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยน้อยหน่อยก็คือ “Right Time” การสอนให้ถูกกับจังหวะเวลา ซึ่งก็คือ พัฒนาการลูกนั่นเอง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP