ลูกร้องไห้ เพราะอะไรนะ? เหตุผลที่จะทำให้แม่เข้าใจลูกมากขึ้น

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ

การร้องไห้ของลูกเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเจอ จนบางครั้งการร้องไห้อาจสร้างความรำคาญให้กับคุณพ่อคุณแม่ ไม่เข้าใจว่าจะร้องไห้ทำไม ซึ่งการร้องไห้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ถ้าเป็นทารกร้องไห้ นั่นเป็นเพราะเขายังไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดกับคุณแม่ได้ แต่สำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะพอสื่อสาร พูดบอกคุณแม่ได้บ้าง แต่ด้วยความที่ชุดคำศัพท์ยังไม่เยอะบางครั้งทำให้ลูกก็ไม่รู้ว่าจะสื่อสารบอกคุณแม่ได้อย่างไร จึงร้องไห้ออกมา

ลูกร้องไห้ เพราะอะไร?

ลูกเหนื่อยมากเกินไป

ในบางวันคุณแม่อาจจัดตารางให้ลูกทำกิจกรรมมากเกินไป ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่าลูกเหนื่อยเกินไป เช่น ลูกขยี้ตา หาวบ่อย เริ่มงอแง ถ้าเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อยคุณแม่จะสังเกตได้จากแววตาที่ไร้พลังเต็มที 555 ซึ่งการร้องไห้ในข้อนี้มาจาก “ความเหนื่อย” ซึ่งคุณแม่ควรลดกิจกรรมลง และให้ลูกได้มีเวลานอนพักกลางวันดังนี้

วัย 12 เดือน ควรนอนอย่างน้อย 2.15 ชั่วโมง
วัย 18 เดือน 2 ชั่วโมง
วัย 2 ขวบ 2 ชั่วโมง
วัย 3 ขวบ 1.30 ชั่วโมง โดยประมาณ

ลูกกำลังหิว

ถ้าเป็นทารกเขาจะหิวบ่อยหน่อย ประมาณทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากกระเพาะลูกยังเล็ก แต่ถ้าเป็นเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย นอกจากจะมีอาหารมื้อหลัก 3 มื้อแล้ว คุณแม่ควรมีมื้ออาหารว่างที่มีประโยชน์สัก 2-3 มื้อ และในแต่ละมื้อควรให้ในปริมาณที่พอดี ไม่อย่างนั้นลูกจะแน่นท้องเกินไป

ลูกฝันร้าย

เป็นไปได้สูงว่าลูกได้รับการกระตุ้นจากกิจกรรมในเวลากลางวันมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นอารมร์สนุก ตื่นเต้น และตกใจกลัว เด็ก ๆ เป็นวัยที่มีจินตนาการสูง หากคุณแม่พบว่าลูกตื่นกลางดึกแล้วร้องไห้ ให้เข้าไปกอดลูก ปลอบลูกจนกว่าจะหยุดร้อง แต่ถ้าหากคุณแม่พบว่าลูกร้องแต่ตายังหลับอยู่ ควรปล่อยให้ลูกนอนไปก่อน เพราะหากคุณแม่ปลุกขึ้นมาลูกอาจร้องไห้หนักกว่าเดิม

ลูกกำลังเครียด

เด็ก ๆ ก็เครียดได้ค่ะ สาเหตุมาจากคุณพ่อคุณแม่ตั้งกฎเกณฑ์มากเกินไป คาดหวังลูกมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลาให้ ปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียวตลอดเวลา ฯลฯ เหล่านี้จะถูกสะสมมาเป็นเวลานานวันหนึ่งลูกอาจรับไม่ไหว จึงร้องไห้ออกมา คุณแม่ควรเปลี่ยนบรรยากาศพาลูกไปเดินเล่นด้วยกันที่สวนสาธารณะ พูดคุยกัน ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น และสิ่งที่ลูกชอบ เมื่อลูกมีความสุขเขาก็จะไม่เครียด ไม่งอแงอีกต่อไป

ลูกเรียกร้องความสนใจ

โดยเฉพาะเด็กในวัย 2-3 ขวบ เพราะในวัยนี้เข้าต้องการความรักความเอาใจใส่จากคุณพ่อคุณแม่มาก ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่สนใจ เขาจะยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ถ้าเป็นแบบนี้ให้คุณพ่อคุณแม่นิ่งไว้ก่อน อย่าเพิ่งเข้าไปโอ๋ ทำให้ลูกรู้ว่าวิธีการนี้ใช้ไม่ได้ผล แต่ก็ไม่ควรออกคำสั่งว่า “หยุดร้อง” เพราะลูกจะยิ่งร้องหนักขึ้น หลังจากลูกหยุดร้อง ให้คุณแม่หาเวลาเล่นกับลูก แสดงความรักกับลูกเพื่อให้เขามั่นใจว่าจะอย่างไรคุณพ่อคุณแม่ก็จะยังรักเขาอยู่

ลูกร้องไห้เอาแต่ใจ

จะเกิดมากกับเด็กที่อายุ 2-3 ขวบ ลูกมักจะใช้วิธีการร้องไห้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เริ่มแรกให้คุณแม่ทำความเข้าใจลูกก่อนว่าเด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถเข้าใจเหตุผลที่คุณแม่อธิบายได้ทั้งหมด คุณแม่จึงต้องหนักแน่นและหาวิธีปฏิเสธลูกในแบบที่นุ่มนวล ด้วยการลองคิดว่าถ้าเราเป็นเด็กในวัยนี้ เราจะเข้าใจอะไรได้มากแค่ไหน แล้วแสดงอารมณ์ที่สะท้อนลูกออกมาเช่น เขาร้องไห้เพราะผิดหวัง เสียใจ พลาดโอกาสในการได้ของเล่นใหม่ ฯลฯ พูดให้ลูกรู้ว่าคุณแม่เข้าใจเขา และบอกเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะอะไรถึงให้ลูกแบบนั้นไม่ได้ ลูกก็จะเรียนรู้และทำความเข้าใจได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ความเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางครั้งเราก็อาจจะไม่ได้เข้าใจลูกได้ทั้งหมด ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ขณะที่ลูกร้องไห้ คุณพ่อคุณแม่ควรใจเย็น ๆ ใช้การพูดคุยในเชิงบวก แบบนี้จะช่วยให้ลูกเย็นลง และสงบได้ กระนั้นก็ตามยังมีอีกหนึ่งประเด็นค่ะ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเจอนั่นก็คือ เรื่องที่ลูกนอนยาก เอาแต่ร้องไห้ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย >> “ลูกร้องไห้ ไม่ยอมนอน ทำอย่างไรดี


ลูกร้องไห้ก่อนนอนทำอย่างไรดี? ชวนคุณแม่ไปหาสาเหตุที่ลูกร้องไห้ก่อนนอนกันก่อน แล้วไปดูวิธีรับมือกันต่อ คลิกที่นี่

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP