9 เทคนิคสอนลูกพูดภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ

ไลฟ์สไตล์
JESSIE MUM

การเรียน” นับเป็นสิ่งเดียวที่คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนและวางรากฐานให้ลูกได้ โดยเฉพาะปัจจุบันหากเด็กคนไหนสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ ก็ถือเป็นต้นทุนให้เค้าในอนาคต บางครอบครัวตัดสินใจปั้นลูกให้เป็นเด็กสองภาษา
เมื่อขึ้นชื่อว่า “ภาษา” แล้ว ควรต้องมี 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน แต่สำหรับเด็กเล็กๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนได้โดยเริ่มจากฟังและพูดก่อน เพื่อให้ลูกเกิดความคุ้นเคยซึ่งมีเทคนิค ดังนี้

พูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

ฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยให้ใช้เป็นกิจวัตรประจำวันเลย เริ่มแรกอาจใช้เวลาซัก 10 นาทีก่อน พอลูกเริ่มชิน ค่อยๆ เพิ่มเวลาไปเป็น 15 หรือ 20 นาที เพราะการฝึกลูกจากการพูดแบบนี้จะทำให้เค้าเรียนรู้ได้ไวขึ้น โดยเฉพาะทักษะในการฟัง

จะให้ดี คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ในเวลาเดิมทุก ๆ วัน เพราะลูกจะได้เตรียมตัวที่จะเรียนรู้ ซึ่งกิจกรรมที่ทำนั้น อาจเริ่มจากการอ่านนิทานภาษาอังกฤษล้วนก็ได้ เพราะถ้าอ่านแบบสองภาษาแล้ว เด็กก็จะมุ่งไปที่ภาษาไทยก่อน เพราะเป็นภาษาแม่ (native language)ที่เค้าคุ้นเคยเดี๋ยวนี้มีการทำหนังสือเล่าเรื่องแบบมีเสียง เช่น ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ป่าก็จะมีเสียงสัตว์ตัวนั้น ๆ ร้อง เป็นต้น หรืออาจจะสลับเป็นเกมภาษาอังกฤษให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกเปลี่ยนบรรยากาศ หรือเรื่องไหนที่ลูกสนใจ สามารถนำมาใช้สอนเค้าเช่นกันค่ะ

เล่นเกมที่ใช้ภาษาอังกฤษ

เริ่มง่ายๆ กับการใช้แฟลชการ์ด ซึ่งมีหลายหมวดหมู่ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือก อาจจะเริ่มจากหมวดหมู่ที่ลูกให้ความสนใจมากเป็นพิเศษก่อนก็ได้ค่ะ การสอนจะได้ง่ายขึ้น

อีกวิธีหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีเล่นจับคู่ก็ได้ค่ะ นอกจากจะได้เรื่องคำศัพท์แล้วลูกๆ ยังได้ฝึกเรื่องความจำอีกด้วยนะคะ ปัจจุบันนี้มีหลายเว็ปที่สามารถดาวน์โหลดแฟลชการ์ดฟรี อาทิ mrprintables.com

เล่าเรื่องราวเป็นภาษาอังกฤษ

อาจเริ่มง่าย ๆ ก่อน เช่น จากการอ่านหนังสือนิทานสองภาษา ระหว่างที่อ่านไปให้คุณพ่อคุณแม่ถามตอบกับลูกเป็นภาษาอังกฤษไป หรือให้ลูกชี้สิ่งของหรือภาพว่าอะไรอยู่ตรงไหน แบบนี้ก็จะทำให้ลูกได้ฝึกทักษะทั้งในเรื่องของคำศัพท์ และการเรียงประโยคไปในตัว

พูดภาษาอังกฤษจากกิจวัตรประจำวัน

คุณพ่อคุณแม่อาจสอนภาษาอังกฤษลูกจากการทำกิจวัตรประจำวันก็ได้นะ ข้อดีคือ เค้าจะได้อยู่ในสถานการณ์นั้น ๆ ก็อาจจะทำให้เค้าเข้าใจและเรียนรู้ได้ไวขึ้น กิจวัตรประจำวัน เช่น

  • การทำกับข้าว ซึ่งลูกๆ ก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์ในหมวดของผักหรือผลไม้ การซักผ้า
  • การซักผ้า พับผ้า ลูกๆ จะได้เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับเสื้อผ้า
  • ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ลูกๆ จะได้เรียนรู้ธรรมชาติ หรืออาจจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตเล็ก ทำให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์ของสิ่งมีชีวิตไปด้วยในตัว

ฟังเพลงภาษาอังกฤษ

ข้อนี้นับเป็นตัวช่วยที่ดีมากผู้เขียนก็ใช้วิธีนี้ควบคู่กันไป โดยใช้เพลงที่มีภาพประกอบพร้อมดนตรีลูกจะได้ฝึกฟัง ฝึกการออกเสียง ซึ่งจะทำให้เค้าซึมซับคำศัพท์นั้นไปโดยอัตโนมัติ

แม่โน้ต

ข้อนี้ได้ผลมากค่ะ ถ้าเราเริ่มจากสิ่งที่ลูกสนใจก่อน การสอนภาษาอังกฤษก็จะง่ายขึ้นมากค่ะ

ชวนลูกร้องเพลงภาษาอังกฤษ

เพราะเด็ก ๆ มักจะชอบความสนุกสนาน ครื้นเครง การชวนลูกให้ร้องเพลง พร้อมเต้นทำท่าประกอบไปด้วยก็จะทำให้เด็กจดจำคำศัพท์และเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ไวขึ้นค่ะ แต่เพลงที่จะใช้แนะนำว่าควรเป็นเพลงสั้น ๆ เต้นง่าย ๆ นะคะ ซึ่งถ้าลูกร้องได้หรือจำได้แล้ว ค่อยชักชวนลูกไปร้องเพลงอื่น ๆ ต่อไปค่ะ

แม่โน้ต

แม่โน้ตให้น้องมิเริ่มฟัง ร้อง และเต้นเพลง Head Shoulder Knees and Toes ก่อน เพราะมีท่าทางประกอบ น้องมินชอบมาก หลังจากนั้นเป็นเพลง Hokey Pokey และเพิ่มเพลงใหม่ไปเรื่อย ๆ ค่ะ

เริ่มสอนไวยากรณ์

แม้จะดูเหมือนว่าไวยากรณ์ไม่ค่อยสำคัญนักสำหรับเด็ก แต่หากคุณพ่อคุณแม่ฝึกเค้าตั้งแต่เล็ก โดยการพูดให้เป็นประโยคเต็มที่มีส่วนประกอบหลักอย่าง ประธาน กิริยา กรรม รวมถึงพูดในประโยคที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างกันไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ลูกได้คุ้นเคย และไม่เกิดความสับสนเมื่อเค้าต้องเรียนรู้ประโยคที่ซ้ำซ้อนที่โรงเรียน

สอนคำศัพท์ไประหว่างการเดินทางท่องเที่ยว

ในช่วงวันหยุดพักผ่อน ระหว่างการเดินทาง คุณพ่อคุณแม่สามารถสอดแทรกคำศัพท์ต่าง ๆ ให้ลูกได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทางหรือบอกรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงต้นไม้ ดอกไม้ รถประจำทาง อาคาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

จัดหมวดหมู่ในการสอน

เริ่มแรกสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมการสอนง่ายก่อนด้วยการจัดการให้เป็นหมวดหมู่ แล้วดูว่าลูกมีความสนใจด้านใดเป็นพิเศษให้เริ่มอันนั้นก่อน หรือให้ลูกได้เลือกก็ได้ค่ะว่าเค้าอยากเรียนรู้เรื่องไหนก่อน ซึ่งมีหลายหมวดหมู่ด้วยกัน เช่น

  • ตัวเลข เริ่มจาก 1-10, 10-20 และ 20-100
  • รูปทรงต่าง ๆ (Shape)
  • สี
  • คำคุณศัพท์แสดงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เสียใจ หิว ดีใจ หัวเราะ เป็นต้น
  • อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
  • สัตว์ต่าง ๆ

อย่าลืมชื่นชมลูกในทุกครั้งที่ลูกจำคำศัพท์ได้หรือพูดได้

เมื่อคุณพ่อคุณแม่สอนลูกในเรื่องของคำศัพท์ หรือไวยากรณ์ต่าง ๆ แล้ว หากลูกจำคำศัพท์นั้น ๆ ได้หรือสามารถพูดเป็นประโยคได้ (ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ถูก 100% ก็ไม่เป็นไร) คุณพ่อคุณแม่ควรพูดชื่นชมลูกเพื่อเป็นการให้กำลังใจตามสมควรด้วยนะคะ อย่างน้อยลูกก็ได้มีความภูมิใจในตัวเอง และมีกำลังใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษต่อไปค่ะ

บางครอบครัวอาจจะยังไม่แน่ใจว่าจะสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเลยดีหรือเปล่า โดยเฉพาะหากลูกยังอยู่ในวัยทารก “เด็กสองภาษา ทารกรับไหวไหม เริ่มฝึกอย่างไรเพราะพ่อแม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ” มีคำตอบค่ะ


จะสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษาตั้งแต่ทารกเลย ลูกจะรับไหวไหม? พ่อแม่ก็เก่งอังกฤษซะด้วย? บทความนี้ที่จะทำให้พ่อแม่มั่นใจในการปั้นลูกเป็นเด็กสองภาษาได้มากขึ้น คลิกที่นี่ค่ะ

“หอไอเฟลไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด การสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเป็นเด็กสองภาษาก็ฉันนั้นค่ะ”

เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านค่ะ^^

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP