แนะ 6 เทคนิค สอบ IELTS อย่างไรให้ได้คะแนนสูง!

ข่าวประชาสัมพันธ์
JESSIE MUM

เชื่อว่าน้อง ๆ ในระดับชั้นมัธยมปลาย ที่มีเป้าหมายเรียนต่อไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศ หรือระดับอินเตอร์ของประเทศไทย ต่างต้องเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้าน “ภาษาอังกฤษ” ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนมากใช้คะแนนสอบ IELTS มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา งานนี้ตัวจริงด้านการสอนภาษาอังกฤษระดับโลกอย่าง บริติช เคานซิล มี 6 เคล็ดลับดี ๆ พิชิต “IELTS” มาให้ได้ฝึกฝนกัน

ฝึกฟังให้ออกทุกสำเนียง

เพราะการสอบ Listening ของ IELTS จะให้ฟังรอบเดียว และสำเนียงภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสอบมีหลากหลายสำเนียง ทั้ง Britain, North America, Australia, New Zealand เป็นต้น ดังนั้น น้อง ๆ จึงต้องฝึกทักษะการฟังเยอะ ๆ ไม่ว่าจะผ่านทางคลิปภาษาอังกฤษจาก Youtube, ภาพยนตร์แบบ Soundtrack และปิด Subtitle รวมถึงช่องข่าวภาษาอังกฤษ หรือฟังจากเจ้าของภาษาโดยตรง

อ่านคำสั่งให้ละเอียด

อ่านคำสั่งให้ดี

น้อง ๆ ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าโจทย์กำหนดคำสั่งมาอย่างไร และให้ตอบไปในทิศทางไหน ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบ Listening หรือ Writing ยกตัวอย่างข้อสอบ Writing หากโจทย์ระบุว่าต้องการให้ตอบกี่คำก็ต้องเขียนคำตอบตามนั้น เช่น ถ้าคำสั่งบอก 150 Words สำหรับ Task 1 ก็ควรจะเขียนให้อยู่ใน 150 คำ เพราะหากเขียนเกินจำนวนคำที่โจทย์บอกก็อาจทำให้คะแนนหายไปได้

กำหนดระยะเวลาการฝึกซ้อม

ตั้งเวลาการฝึกซ้อม

ข้อสอบ Listening ใช้เวลาทั้งหมด 40 นาที แต่น้อง ๆ จะมีเวลาฟัง 30 นาที และมีเวลาเขียนคำตอบลงกระดาษอีกแค่ 10 นาที ดังนั้น ลองตั้งเวลาขณะฝึกทำแบบฝึกหัด เพื่อหาจังหวะของตัวเอง ซึ่งการตั้งเวลาไม่เพียงช่วยให้ทำข้อสอบได้ดีภายใต้แรงกดดันเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ได้รู้จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเอง เช่น ถ้าไม่สามารถทำข้อสอบ Reading ได้เสร็จทันเวลา ก็ควรฝึกด้านการอ่านเพิ่มเติมด้วยเทคนิคต่าง ๆ

หาทางพัฒนาเทคนิคของตัวเอง

พัฒนาเทคนิคของตัวเอง

เมื่อรู้ว่าแต่ละส่วนของข้อสอบต้องทำอะไรบ้าง น้อง ๆ ก็สามารถหาเทคนิคของตัวเองที่ช่วยทำข้อสอบให้เร็วขึ้นได้ อย่างการทำข้อสอบ Listening ก็อาจใช้เทคนิคการขีดเส้นใต้คำที่เป็น Keyword ซึ่งจะทำให้จดจ่ออยู่กับคำนั้น และสามารถจับคำได้จากบทสนทนา หรือถ้าต้องการทำข้อสอบ Writing แบบเร็ว ๆ ก็ให้อ่านคำถามก่อนแล้วค่อยมาอ่านเนื้อหา เป็นต้น อย่างไรก็ดี เทคนิคการทำข้อสอบมีหลายรูปแบบ หลายวิธี ให้ทดลองหาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง หรือให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำเพื่อจะได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว และตรงกับจุดแข็งมากที่สุด

ฝึกเขียนให้เหมือนเจ้าของภาษา

เพราะการอ่านมีผลกับการเขียน ลองฝึกอ่านงานภาษาอังกฤษหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคู่มือ โฆษณา นิตยสาร ประกาศหางาน บทความต่าง ๆ หรืองานวิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นลองฝึกเขียนสัก 2-3 ประโยคโดยใช้ศัพท์ใหม่ที่ได้มา เมื่อเขียนเป็นประโยคได้แล้ว จึงขยับไปสู่การเขียนเป็นย่อหน้าแล้วประกอบให้เป็นบทความสั้น ๆ วิธีนี้จะช่วยพัฒนาการทำข้อสอบในส่วนของ Writing ได้เป็นอย่างดี

หาเพื่อนร่วมเรียน

หาเพื่อนร่วมเรียน

เพื่อนที่มีทักษะภาษาอังกฤษดีมาก ๆ จะช่วยประเมินการใช้ภาษาของเราได้ โดยเฉพาะการสอบ Speaking โดยอาจลองซ้อมพูดกับเพื่อนและขอ Feedback หรืออัดเสียงของตัวเองแล้ววิเคราะห์ดูว่าตัวเองพูดเร็วไปหรือไม่ ตอบตรงคำถามหรือไม่ ซึ่งการฝึกและปรับปรุงการพูดจะทำให้สมองเริ่มคิดเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้นกว่าเดิม

ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับที่อยากให้น้อง ๆ ได้ฝึกปรืออย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าน้อง ๆ อยากได้ความมั่นใจมากกว่าเดิม มีแนวทางที่ชัดเจนในการฝึกฝนตัวเองได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเทคนิคในการทำข้อสอบ อยากให้น้อง ๆ มาเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญของ บริติช เคานซิล กับ คอร์ส Secondary IELTS ที่ออกแบบมาสำหรับน้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโดยเฉพาะ ซึ่งมีเนื้อหาการสอนที่ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ตามแนวข้อสอบ และสอนโดยครูผู้สอนที่มีวุฒิการสอนจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (หรือเทียบเท่า) พร้อมมีประสบการณ์การสอนมากกว่า 2,000 ชั่วโมง

คอร์ส Secondary IELTS เปิดสอนตลอดทั้งปี ใช้เวลาในการเรียน 10 สัปดาห์ โดยน้อง ๆ จะได้พัฒนาและฝึกฝนทักษะด้านภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและแม่นยำผ่านแบบฝึกหัดที่หลากหลาย อีกทั้งยังได้ฝึกทำตัวอย่างข้อสอบ IELTS ของปีที่ผ่านมาด้วยการจับเวลาแบบสอบจริง ขณะเดียวกัน น้องๆ จะได้เพิ่มเติมคลังคำศัพท์และความเข้าใจในหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำข้อสอบส่วนของ Speaking และ Writing

ด้วยความที่ บริติช เคานซิล เป็นผู้แทนการจัดสอบ IELTS อย่างเป็นทางการ และมีประสบการณ์อย่างยาวนานด้านการสอนภาษาอังกฤษ น้อง ๆ จึงมั่นใจได้ว่าหลักสูตรของคอร์สนี้ตรงกับแนวข้อสอบ และช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้ตรงกับมาตรฐานที่ผู้ออกข้อสอบต้องการได้อย่างแน่นอน!

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP