คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะห่วงเรื่องอื่น ๆ ของลูกจนอาจละเลยในเรื่องของการดูแลช่องปากและฟันให้ลูกน้อยไป ซึงอันที่จริงแล้วเรื่องของฟันลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่สามารถใส่ใจดูแลเค้าได้ตั้งแต่หลังคลอดเลยค่ะ ตลอดจนเมื่อลูกน้อยเริ่มมีฟันซี่แรก วันนี้แม่โน้ตมีข้อมูลจากคุณหมอตุ๊กตา เพจฟันน้ำนม พร้อมกับวิธีแปรงฟันลูกน้อย 1 ขวบ มาฝากค่ะ ไม่ยาก ๆ ไปค่ะ
สารบัญ
เริ่มแปรงฟันให้ลูกได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ดี
วัยทารก
จริงๆ แล้ว การทำความสะอาดช่องปากของลูกน้อย สามารถทำได้ตั้งแต่ฟันลูกยังไม่ขึ้นด้วยอุปกรณ์และวิธีการดังนี้ค่ะ
- ผ้าอ้อมสะอาด หรือ ผ้าก๊อซ
- น้ำต้มสุก
- ให้คุณแม่เอาผ้าอ้อมสะอาดหรือผ้าก๊อซพันนิ้วชี้ ชุบน้ำต้มสุก แล้วค่อยนำไปเช็ดที่สันเหงือกทั้งด้านในและด้านนอกของลูกน้อย รวมถึงเช็ดลิ้นจากด้านในมาด้านนอก แต่ต้องเร็วนะคะ ไม่อย่างนั้นลูกอาจแหวะได้
วัย 1 ขวบ – 2 ขวบ
ในระยะแรกนี้คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งไปคาดหวังอะไรเยอะนะคะ แต่วัยนี้จะเริ่มชอบเลียนแบบและทำตามพฤติกรรมของผู้ใหญ่ ซึ่งถ้าหากลูกต้องการจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อดูคุณพ่อคุณแม่แปรงฟันละก็ ก็ปล่อยให้ลูกเข้าไปค่ะ หลังจากนั้นก็อาจให้ลูกได้ถือแปรงเล่น เพื่อทำความคุ้นเคยกับขนแปรง และด้ามจับ
วัย 4 ขวบขึ้นไป
วัยนี้ลูกจะเริ่มรู้จักการบ้วนปากแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกได้ใช้แปรงสีฟัน พร้อมกับยาสีฟันเด็กดูได้ค่ะ
ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ได้ไหม?
“ฟลูออไรด์” เป็นส่วนผสมที่ใส่ในยาสีฟันเพื่อป้องกันฟันผุ เป็นเรื่องดีหากฟันน้ำนมที่แม้เพิ่งขึ้นพ้นจากเหงือกจะได้รับฟลูออไรด์ เพราะเจ้าฟลูออไรด์นี้จะช่วยเปลี่ยนองค์ประกอบแร่ธาตุของฟัน ทำให้แข็งแรงขึ้น ทนต่อกรดได้มากขึ้น ช่วยป้องกันฟันผุได้ดีค่ะ
“ความเข้มข้นของฟลูออไรด์ควรใช้อยู่ที่ 1,000 ppm”
ควรมีปริมาณการใช้ดังนี้
- ฟันซี่แรก – ต่ำกว่า 3 ขวบ บีบยาสีฟันเอาแค่แตะแปรงนิดเดียว คุณพ่อคุณแม่ช่วยแปรงก่อน แปรงเสร็จแล้ว ใช้ผ้าสะอาดเช็ดยาสีฟันออก
- 3 ขวบ – ต่ำกว่า 3 ขวบ ใช้ยาสีฟันเท่าความกว้างหน้าตัดของขนแปรง คุณพ่อคุณแม่ยังช่วยแปรงอยู่ค่ะ
- 6 ขวบขึ้นไป ใช้ยาสีฟันเท่าความยาวหน้าตัดแปรงให้ลูกแปรงเองแต่คุณพ่อคุณแม่ยืนสังเกตการณ์ใกล้ๆ เพื่อช่วยตรวจความสะอาด ถ้ายังไม่สะอาด คุณพ่อคุณแม่ช่วยแปรงซ้ำ
การเลือกแปรงสีฟันที่ดีให้กับลูก
การเลือกแปรงสีฟันที่ดีให้กับลูกนั้น ในหนึ่งแปรงควรมีคุณสมบัติ ดังนี้ค่ะ
- แปรงสีฟันขมนุ่ม เวลาแปรงขนแปรงจะกระจายตัวออก ทำให้การทำความสะอาดซอกฟันนั้นเข้าถึงและสะอาดขึ้น
- แปรงสีฟันหน้าตัดตรง สามารถขจัดคราบจุลินทรีย์ได้ดีกว่าหน้าตัดมนหรือที่มีความสูงต่างกัน
- ขนาดพอดีกับช่องปากลูก ทำให้แปรงฟันได้ทั่วทุกซี่ และลูกไม่เจ็บ
- ด้ามแปรงที่ลูกจับได้ถนัด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแปรงให้ลูก โดยจะสะอาดและรวดเร็วขึ้น
วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง
เรื่องของวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะช่วยรักษาฟันของลูกให้ไม่ผุได้ บางคนแปรงผิดวิธีมาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อโตขึ้นอาจทำให้คอฟันสึกเร็ว และเมื่อเศษอาหารไปอุดที่คอฟัน ส่งผลให้คอฟันผุได้ ซึ่งการแปรงอย่างถูกต้องมีวิธีดังนี้ค่ะ
ขยับแปรงสีฟันเป็น แนวนอนสั้นๆ ไม่ใช่ขยับขึ้นลง จะทำให้การทำความสะอาดฟันนั้นง่ายขึ้น รวดเร็ว และสะอาดค่ะ เพราะฟันน้ำนมของลูกนั้นมีขนาดเล็กและสั้น โดยวางแปรงสีฟันให้เอียงไปทางคอฟันหรือโคนฟันเล็กน้อย เพราะบริเวณนั้นมักเป็นที่สะสมของแบคทีเรียอยู่มาก และเราจะแปรงไม่ค่อยถึง ซึ่งการแปรงในลักษณะนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ทำไปจนเมื่อลูกอายุครบ 11 ปี หลังจากนั้นค่อยเปลี่ยนวิธีแปรงเป็นแบบขยับปัดค่ะ
ท่าทำความสะอาดช่องปากให้ลูกน้อย
ท่าดักแด้ตัวน้อย : เหมาะกับเด็กอายุ 8 เดือนขึ้นไป
มีขั้นตอน ดังนี้
- ใช้ผ้าขนหนูห่อตัวลูกน้อย พยายามให้แขนลูกแนบกับตัวเรามากที่สุด
- ให้ลูกอยู่ระหว่างขา ศีรษะหันไปทางคุณแม่ ใช้ผ้าขนหนูรองศีรษะไว้
- ขาทั้งสองข้างของคุณแม่เหยียดตรงขนาบแนบกับตัวลูก หากลูกดิ้นมาก ๆ ให้ใช้ขาช้างที่ถนัดล็อคตัวลูกไว้
ท่าขาทับแขน : เหมาะกับอายุ 11 เดือนขึ้นไป
มีขั้นตอน ดังนี้
- ให้ลูกอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง
- ใช้ขาทั้งสองข้างวางไขว้ทับขาลูกทั้งสองข้าง แต่ไม่ต้องวางน้ำหนักขาของคุณแม่ทั้งหมดนะคะ แค่พาดไว้ เพื่อกันลูกไม่เอามือขึ้นมาปัดแปรงออกค่ะ
ท่าชิงช้าคุณแม่ : ลูกที่ไม่ยอมแปรงฟันระดับหนึ่ง
ท่านี้เหมาะกับลูกที่โตขึ้นมาหน่อย แบบพูดกันรู้เรื่องแล้ว มีขั้นตอน ดังนี้
- คุณแม่นั่งบนเก้าอี้ ห้อยขาให้ไขว้กัน
- ให้ลูกนั่งบนช่องขาที่ว่างของคุณแม่ ซึ่งลูกจะเท้าแขนที่ต้นขาของคุณแม่พอดี
- ให้ลูกเอนตัวพิงคุณแม่ไว้ พร้อมให้ลูกเงยหน้าขึ้น ประคองหัวลูกไว้
ท่าเงยหน้าอ้าปาก : เด็กโตที่แปรงฟันได้แล้ว
เหมาะกับเด็กที่โตขึ้นมาอีก สามารถแปรงฟันเองได้แต่อาจไม่สะอาดนัก มีขั้นตอน ดังนี้
- คุณแม่ยืนซ้อนด้านหลังลูก
- ใช้มือซ้ายจับคางลูกไว้ เพื่อให้ลูกไม่ขยับไปมา เงยหน้าลูกขึ้นเล็กน้อย
ข้อมูลอ้างอิง parentsone.com
เรื่องสุขภาพในช่องปากและสุขภาพฟันของลูกนั้น เป็นสิ่งสำคัญนะคะ เพราะหากลูกมีพื้นฐานในเรื่องการดูแลรักษาที่ดีแล้ว จะส่งผลให้ลูกมีสุขภาพฟันและสุขภาพช่องปากที่ดี เป็นการเสริมบุคลิกได้อย่างดีทีเดียวค่ะ และอย่าลืมพาไปพบหมอฟัน เพื่อรับการดูแลอย่างถูกต้องและถูกทางกันด้วยนะคะ