พอเลี้ยงลูกชาย มีคุณแม่หลายคนคิดไปเสียว่า “กังวลอนาคต…..” โดยไม่ค่อยคำนึงถึงความหยาบคาย หรือความรุนแรงไม่ใช่หรือเวลาทำกิจกรรมกลุ่ม เราคงไม่อยากให้เขาเป็น “เด็กขี้โมโห” พอมีอะไรไม่ถูกใจใช้กำลังกับเพื่อนหรืออาละวาดใช่ไหมคะ แล้วทำอย่างไรจะเลี้ยงให้ลูกเป็น “เด็กไม่โกรธง่าย” กันล่ะ
วันนี้จะถ่ายทอดเกี่ยวกับสิ่งสำคัญ 3 ข้อ เพื่อเลี้ยงให้ลูกชายเป็น “เด็กไม่โกรธง่าย”ในอนาคต
สารบัญ
ข้อ1 : ให้พูดเยอะๆ
เมื่อมีสิ่งที่ไม่ถูกใจ หรือไม่เป็นไปตามที่ตัวเองคิด ก็กระแทกคนหรือสิ่งของแรงๆบ้าง ตะโกนเสียงดังบ้าง หรือก็คือพฤติกรรม “โกรธ” เป็นบ่อเกิดของการขาดความอดทนอดกลั้น กล่าวได้ว่าเด็กๆเป็นคนที่ไม่มีความอดทนอดกลั้น และเด็กผู้ชายหยาบคายหรือทำรุนแรงบ้างเป็นธรรมดา แต่ตั้งแต่ 2 ขวบเป็นต้นไปซึ่งเข้าใจภาษาและเริ่มพูดได้ จะ “ฝึกฝน” การคุมสติตัวเองได้
กุญใจในการปลูกฝังความอดทนอดกลั้น จริงๆแล้วก็คือ “คำพูด”
คนเราสามารถปลดปล่อยความต้องการของตัวเองในชั่วขณะได้จากการพูดสิ่งที่ตนคิด ถ้าได้พูดสิ่งที่กังวลหรือคาใจกับใครสักคน จิตใจก็จะปลอดโปล่งใช่ไหมคะ เด็กๆก็เช่นกัน ถ้าลูกพูดได้แล้วละก็ ให้เขาพูดเยอะๆนะคะ
พอลูกที่เริ่มพูดได้ พูดกับตัวเอง อาจมีคุณแม่หลายคนเป็นกังวลว่า “ลูกของฉันเป็นอะไรหรือเปล่า?” แต่จะยิ่งเป็นการดี ให้เขาพูดเยอะๆ ฝึกพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาเถอะค่ะ โดยทั่วไปเด็กผู้หญิงจะพูดได้เร็วกว่าเด็กผู้ชายและพูดเก่ง อาจจะกล่าวได้ว่าการที่เด็กผู้หญิงมีความอดทนอดกลั้นมากกว่าเด็กผู้ชาย เป็นเพราะ “พูด” เยอะ
ข้อ2 : “ตั้งคำถาม” ไม่ดุด่าโดยไม่ถามเหตุผล
เมื่อลูกฉุนเฉียวใช้กำลัง อย่าเพิ่งดุด่าโดยไม่ถามเหตุผล ขอให้นั่งลงหันหน้าเข้าหากัน แล้วถามเขาว่า “ทำไมเมื่อกี้ถึงปาของล่ะครับ?”
และให้เขาฝึกพูดสิ่งที่คิดอยู่ข้างใน คิดว่าจะมีสิ่งที่ลูกอยากพูดหลายๆอย่างออกมา เช่น “ไม่ชอบที่โดนแย่งของเล่นไป” “อยากดื่มน้ำผลไม้อีก” เป็นต้น
ก่อนอื่นให้รับฟังคำพูดของลูก แล้วเสนอว่า “คราวหน้า ลองบอกก่อนจะปาข้าวของดีไหมครับ?” ถ้าฝึกฝนอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง จะมีความอดทนอดกลั้นมากขึ้นทีเดียว
ข้อ3 : คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็น “ผู้ใหญ่ที่ไม่โกรธง่าย”
ลูกมักจะดูท่าทางของพ่อแม่ ถ้าอยากทำให้ลูกเป็นเด็กไม่โกรธง่าย การคุณพ่อคุณแม่เองเป็น “ผู้ใหญ่ที่ไม่โกรธง่าย” ก็สำคัญเช่นกัน
พอเลี้ยงลูกชาย จากความซนของเขามักจะกลายเป็น ยังไงก็ต้องดุแรงๆ บางครั้งก็อารมณ์ขึ้นใช่ไหมคะ แต่ขอให้ระงับอารมณ์นั้นไว้ ก่อนตะโกนดุด่าลูกด้วยเสียงดังๆ ให้สูดลมหายใจหนึ่งครั้ง แล้วพยายามพูดอย่างใจเย็น
ลูกชายมักอยากจะเลียนแบบท่าทางของคุณพ่อ มากกว่าคุณแม่ จึงอยากขอร้องคุณพ่อให้พยายามไม่ตะโกนดุด่าโดยไม่ถามเหตุผลนะคะ การที่เด็กผู้ชายหยาบคาย รุนแรง บางส่วนก็มาจากสัญชาติญาณจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่ความอดทนอดกลั้นนั้นสามารถปลูกฝังกันได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการปฏิบัติต่อกันของพ่อแม่
แต่การอบรมสั่งสอนต้องใช้เวลา ต้องปฏิบัติต่อเนื่องนานๆ อยากให้คุณพ่อคุณแม่พยายาม ใจเย็นๆและให้เวลา ไม่ใจร้อนหากไม่เห็นผลในทันที
ขอให้ใจเย็น สนุกกับการเลี้ยงดูลูกด้วยความละมุนละม่อมนะคะ