สาเหตุที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียน พร้อมวิธีรับมือ

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

ปี 2020 นี้เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบประวัติศาสตร์ที่โรงเรียนปิดเทอมนานขนาดนี้ ปิดตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม (โดยประมาณ) เพราะเจ้าโรคระบาดโควิด-19 ที่เป็นตัวการ การปิดเทอมยาว ๆ แบบนี้เด็กหลายคนอาจไม่ชอบ แต่ในขณะที่ก็มีจำนวนไม่น้อยถูกใจสิ่งนี้มาก เพราะเขามีความไม่อยากไปโรงเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก่อนที่โรงเรียนจะเปิด เรามาหาสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน

สาเหตุที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียน

กังวลว่าจะต้องห่างจากพ่อแม่

สำหรับอาการนี้จะเป็นกันมากในเด็กเล็กที่กำลังจะเข้าเตรียมอนุบาลและชั้นอนุบาล (อายุประมาณ 3 ขวบ) เพราะเป็นครั้งแรกที่ต้องห่างจากคุณพ่อคุณแม่ อาจมีร้องไห้งอแงบ้าง แต่จะเป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็จะดีขึ้นค่ะ ส่วนที่เป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อยประมาณอนุบาล 2 – 3 อาจมีงอแงเล็กน้อย แต่ถ้ามีอาการมาก เป็นไปได้ว่าลูกขาดความมั่นคงทางอารมณ์กับคุณพ่อคุณแม่ ทำให้ลูกเกิดความวิตก

วิธีแก้ไข

ตอนเช้าให้คุณพ่อคุณแม่ไปส่งลูกตามเวลาปกติ โดยให้ทันเวลาที่ทางโรงเรียนกำหนดนะคะ แล้วบอกลูกว่าบ่าย ๆ คุณแม่จะมารับ เมื่อใกล้โรงเรียนเลิกคุณแม่ควรไปก่อนเวลาเลิกเรียนนะคะ จะได้รับลูกอย่างตรงเวลา สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นมาคุณแม่ไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน เขาจะมีความมั่นคงทางอารมณ์กับคุณแม่มากขึ้นค่ะ

กลัวคุณครู

ที่ผ่านมา เด็กบางคนเคยเจอคุณครูใจดี พูดจาอ่อนหวาน กิริยานุ่มนวล น่ารัก แต่พอมาในภาคเรียนนี้ เจอคุณครูที่เสียงดัง บางทีก็ดุเพื่อน (ไม่ได้ดุตัวเอง) ลูกก็กลัวแล้ว เมื่อลูกเห็นแบบนี้เข้าก็ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียนได้

วิธีแก้ไข

การปรับตัวควรเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นตัวตนของคุณครูก็ตาม เพราะหากลูกยืนยันไม่อยากไปโรงเรียน จะส่งผลต่อการเรียนของลูกได้ ดังนั้น ให้คุณแม่เริ่มถามลูกแบบเนียน ๆ ก่อนค่ะ เช่น วันนี้เรียนวิชาอะไร? สนุกไหม? ครูสอนเป็นอย่างไรบ้าง? และเมื่อเริ่มได้ข้อมูล ให้คุณแม่ปรึกษากับคุณครูและทางโรงเรียน เพื่อช่วยกันแก้ไขในจุดนี้ค่ะ

วิชาที่เรียนง่าย และ/หรือ ยากเกินไป

เพราะเด็กแต่ละคนมีความสามารถด้านการเรียนรู้ที่ต่างกัน การเลี้ยงดูของครอบครัวก็มีส่วนอย่างมาก เด็กบางคนเรียนรู้ได้เร็ว คุณพ่อคุณแม่ก็สอนลูกได้เต็มที่ สอนอะไรลูกก็รับได้หมด แบบนี้เวลาที่ลูกไปเรียนหนังสือก็กลายเป็นวิชานั้นง่ายไป ในขณะที่เด็กบางคนเรียนรู้ได้ช้า ก็จะบอกว่าที่เรียนอยู่นี้มันหนักไป ก็ทำให้ลูกไม่มีแรงจูงใจที่จะไปโรงเรียน เพราะมันไม่สนุก

วิธีแก้ไข

ข้อนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝัง Mind Set ลูกใหม่นะคะ สำหรับเด็กที่เรียนรู้ได้เร็ว คุณพ่อคุณแม่อาจบอกว่า (ประมาณนี้)

“แม้ว่าลูกจะรู้อยู่ก่อนแล้วก็ไม่เป็นไรนี่ค่ะ ไปเรียนรู้ซ้ำเพื่อทบทวนความเข้าใจว่าเราเข้าใจถูกต้องแค่ไหน”

สำหรับเด็กที่เรียนรู้ได้ช้ากว่า ให้คุณพ่อคุณแม่บอกกับลูกว่า

“ตรงไหนที่ลูกไม่เข้าใจ หนูสามารถถามคุณครูก็ได้นะคะ หรือไม่ก่อนวันที่ลูกไปเรียน พ่อกับแม่จะสอนหนูเพื่อนดีไหมคะ แล้วพอไปที่โรงเรียน เมื่อคุณครูสอนซ้ำหนูจะได้เข้าใจมากขึ้น” เป็นต้น

ถูกเพื่อนแกล้ง

ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียน เพราะเพื่อนอาจไม่ชอบหน้าลูก ไม่อยากคบด้วย แต่หนึ่งสาเหตุที่ทำให้เด็กคนนั้นโดนแกล้งบ่อย ๆ เพราะอะไรรู้ไหมคะ?

…เพราะลูกมีบุคลิกที่ดูเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าโต้ตอบ ไม่กล้าลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง

เหล่านี้เป็นแม่เหล็กชั้นดีที่ทำให้เป็นเป้าได้ง่าย

วิธีแก้ไข

ให้ปรึกษาคุณครูค่ะ และร่วมมือกันแก้ไข ร่วมพูดคุยกันทั้งผู้ปกครองของเด็กที่แกล้งด้วย เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย ในขณะที่อีกด้าน คือ คุณพ่อคุณแม่ควรปรับเรื่องการเลี้ยงดูลูก ไม่ประคบประหงมมากเกินไป ฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเอง ลูกก็จะมีความมั่นใจในตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้นค่ะ

แม่โน้ต

ทั้งข้อที่ลุกกลัวคุณครูและขอนี้ หากเกิดขึ้นจริง เด็กส่วนใหญ่จะไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกเอง และที่สำคัญทุกครั้งที่รับกลับจากโรงเรียนให้ตรวจดูตามร่างกายของลูกว่ามีรอยฟกช้ำ ส่วนไหนหรือไม่ และสอบคุณครูทันทีค่ะ

อาหารไม่ถูกปาก

บางครอบครัวยอมให้ลูกกินแต่อาหารที่ชอบ ลูกไม่อยากกินผักก็ตามใจ อยากกินอะไรก็ตามใจ อาหารทุกอย่างที่บ้างจึงเป็นอะไรที่ถูกปากไปเสียหมด เมื่อไปโรงเรียน ลูกไม่สามารถเลือกได้ จึงทำให้เมื่อถึงเวลาอาหารลูกไม่อยากกิน และเกิดความเบื่อในที่สุด เบื่ออาหารที่โรงเรียน เบื่อการไปโรงเรียน (เพราะเลือกไม่ได้)

วิธีแก้ไข

ฝึกให้ลูกกินทุกอย่างค่ะ ฝึกให้เป็นเด็กกินง่าย โดยเฉพาะผัก อธิบายให้ลูกเห็นว่าผักและผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร

การเลี้ยงลูกเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถของคุณพ่อคุณแม่มาก ๆ ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ และที่สำคัญ ใช้เวลา สู้ ๆ ค่ะคุณพ่อคุณแม่

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ระหว่างที่ลูกมีภาวะที่ไม่อยากไปโรงเรียน

  1. ไม่คาดคั้น ดุด่า หรือรำคาญในพฤติกรรมที่ลูกแสดงออก แต่ให้เป็นผู้ฟังที่ดี
  2. พยายามพูดคุย โน้มน้าวให้ลูกเล่าให้ฟัง เพื่อหาสาเหตุที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียน และหาแนวทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ เช่น ถูกเพื่อนแกล้ง หรือถูกลงโทษอย่างรุนแรงจากคุณครู ฯลฯ
  3. พูดโรงเรียนในแง่บวกให้ลูกฟัง เช่น ที่โรงเรียนมีเพื่อนเล่นเยอะ หรือมีวิชาที่หนูชอบ เป็นต้น
  4. เข้าพบคุณครูประจำชั้น เพื่อหาทางแก้ร่วมกัน

หากคุณพ่อคุณแม่ยังมีลูกที่อยู่ในวัยอนุบาล การที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นใส่ใจ และสังเกตพฤติกรรมของลูกด้วยนะคะว่าเขาอยู่ในภาวะไม่อยากไปโรงเรียนหรือเปล่า ถ้าหากหนึ่งในสาเหตุที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนนั้นมาจากการถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง คุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามอ่านวิธีรับมือได้จากบทความนี้ค่ะ


ลูกมักทำของหายที่โรงเรียนบ่อย ๆ เพราะอะไรนะ? เป็นไปได้ว่าอาจโดนเพื่อนแกล้ง หากเป็นอเช่นนั้นจริง จะรับมืออย่างไร คลิกที่นี่ค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP