เพราะแม่แกร่ง ลูกถึงแกร่งตาม ทำอย่างไรถึงเป็นไอดอลในใจลูก

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

คำว่า “ครอบครัว” นั้น ประกอบไปด้วย พ่อ แม่ และลูก แต่อีกหนึ่งความสัมพันธ์หนึ่งที่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลต่อทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด และการใช้ชีวิต นั่นก็คือ “ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก” มีหลายครอบครัวที่มีคุณแม่เป็นไอดอล หรือแม้แต่งานวิจัยก็ยังระบุไว้ว่า ถ้าแม่แกร่ง ลูกก็จะแกร่งตาม ดังนั้น การเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้ดำเนินรอยตามจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก่อนที่จะไปดูว่าจะเป็นไอดอลในใจลูกได้ต้องทำอย่างไร โน้ตอยากชวนคุณแม่มาดูงานวิจัยกันซักนิดก่อนนะคะ

จากผลการวิจัยแม่แกร่งลูกแกร่งตาม

Bonnie Marcus นักพูดระดับนาชาติ

เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา เธออ้างว่าเธอได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจากผู้หญิง 600 คน ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต Bonnie พบว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอมีคุณแม่เป็นไอดอล เป็นคนสอน และเลี้ยงพวกเธอมาให้เป็นแบบนี้

Kids and Girls Leadership

ได้ทำการสุ่มตัวอย่างจากวัยรุ่น 1000 คน โดย 63% จากเด็กจำนวนนี้เป็นเด็กผู้หญิง ที่ยอมรับและบอกว่า พวกเธอมีแม่เป็นไอดอล ซึ่งไม่ว่าพวกเธออยากจะทำอะไรก็ตามก็อยากจะได้รับการสนับสนุนการผู้ปกครองมากกว่าที่พวกเราคิด

ทำอย่างไรถึงเป็นไอดอลในใจลูก

อย่างที่คุณแม่ทราบกันดีค่ะว่าเด็กๆ มักจะเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเชื่อหรือไม่คะว่า ลูกๆ จะเลียนแบบตั้งแต่วิธีคิด วิธีการใช้ชีวิต การแสดงท่าทาง ตลอดจนเรื่องของการพูดเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาถอดกันทีละข้อเลยค่ะว่าการที่จะมีคุณแม่เป็นไอดอลที่ดีให้ลูกนั้น ต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง

แม่ต้องมีความมั่นใจ

เรื่องนี้ชัดมากเวลาที่คุณแม่จะแสดงออกหรือจะพูดอะไรก็ตาม ถ้าคุณแม่มั่นใจ เด็กๆ จะรับรู้ได้เช่นกัน กลับกันถ้าคุณแม่ไม่มีความมั่นใจ เหล่านี้จะสามารถแสดงออกได้ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งท่าทางหรือคำพูด

สอนลูกให้พึ่งพาตัวเองก่อน

คุณแม่ที่ดีและทำถูกต้องนั้น ควรสอนลูกให้พึ่งพาตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปพึ่งพาคนอื่น เพราะถ้าหากขาของเรายังไม่แข็งแรงพอ เราจะเดินไปหาความสำเร็จของเราได้อย่างไร

กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ความถูกต้อง” เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรปลูกฝังลูกตั้งแต่เล็กๆ อธิบายให้เค้าเข้าใจว่าอะไรคือความถูกต้อง อะไรคือสิ่งที่สมควรทำ และอะไรคือสิ่งที่ผิด สอนให้เค้าแยกแยะได้ก่อน เพราะเมื่อเค้าแยกแยะได้ เค้าก็จะกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องค่ะ

ออกห่างหรือหันหลังให้กับความสัมพันธ์ที่บั่นทอน

การออกห่างหรือหันหลังให้กับความสัมพันธ์ที่บั่นทอนนั้น คือง่ายๆ ค่ะ ความสัมพันธ์ในรูปแบบใดก็ตามที่ทำให้เราไม่มีความสุข หันหลังให้กับความสัมพันธ์นั้นซะ แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์ในเรื่องงานหรือเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถตัดขาดได้ ก็ให้ออกห่างแทน

ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

มุ่งมั่น” จริงๆ จะใช้คำนี้ก็ไม่ผิดนัก เพราะเมื่อเรามีเป้าหมายที่จะทำอะไรซักอย่าง เราควรใช้ความพยายามให้มากที่สุด ถึงแม้ว่าระหว่างการเดินทางจะต้องใช้พละกำลังของร่างกายและจิตใจมากแค่ไหนก็ตาม อย่าลืมนะคะ ว่ามีลูกๆ มองเราอยู่

รู้จักการให้อภัย

การให้อภัยเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราเป็นผู้หญิงที่โอบอ้อมอารี มีจิตใจที่ดี ไม่ใช่แค้นฝังหุ่นอะไรอย่างนั้น

รู้จักการเป็นผู้รับฟังที่ดี

จะบอกว่าเสน่ห์ของผู้หญิงหลายๆ คนอยู่ที่การเป็นผู้ฟังที่ดี เพราะหากเราเป็นผู้ฟังที่ดีแล้ว ก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี หรือถ้าหากเป็นในเรื่องของการเรียนรู้ก็จะทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะทีเดียว

เปิดอกพูดคุยอย่างเปิดเผย

ด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่อ่อนโยนนะคะ ไม่ใช่จับคอเสื้อเรียกคุยหน้าห้องน้ำ ไม่ใช่ๆ นั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพราะเป็นธรรมดาที่คนเราจะคิดต่างกันเพราะอาจมองกันต่างมุม ปัญหาต่างๆ จะสามารถแก้ไขได้หากเราหันหน้ามาคุยกัน เปิดใจรับฟังอีกฝ่าย

ให้คำแนะนำด้วยความเข้าอกเข้าใจ

ข้อนี้คงเป็นอะไรที่ลูกๆ อยากให้คุณแม่เป็นกัน เพราะ…ลูกๆ ไม่ได้ต้องการแม่ที่เพอร์เฟ็คต์ แต่ต้องการคุณแม่ที่เข้าใจเค้า รวมไปถึงคำปรึกษาจากคุณแม่ เค้าก็อยากให้คุณแม่เข้าใจเค้าเช่นกัน ไม่ใช่…คำปรึกษาที่คุณแม่อยากให้เค้าเป็น เอาใจเค้ามาใส่ใจเราคือ ดีที่สุดค่ะ

กว่าคนหนึ่งคนจะเติบโตและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในโลกที่อยู่ยากขึ้นทุกวัน ต้องอาศัยการหล่อหลอมและการขัดเกลามากเลยทีเดียว แต่ทั้งหมดนี้จะไม่หนักหนาเท่าไหร่ หากคุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก หลายอย่างที่ลูกซึมซับได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยการพูดเลยซักคำ และเมื่อนั้นไอดอลในตัวลูกก็จะแสดงออกมา

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP