ลูกพูดติดอ่าง เป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นได้กับเด็กเล็กวัยก่อนเข้าอนุบาล ซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติที่เกิดจากการพูดและการออกเสียงของเด็ก อีกทั้งยังส่งผลเสียทางด้านบุคลิกภาพ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตเมื่อลูกมีอายุเพิ่มมากขึ้น เช่น การถูกล้อเลียนจากเพื่อน กลายเป็นปมด้อย และขาดความมั่นใจในการสื่อสาร นั่นถือว่าเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงที่คุณแม่จำเป็นจะต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก
เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาเหล่านี้ จึงจำเป็นจะต้องมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการพูดติดอ่าง เพื่อให้ได้ทำความเข้าใจ และหาวิธีแก้ไขการพูดติดอ่างของลูกไม่ให้ส่งผลกระทบต่อไปในระยะยาว
สารบัญ
ลูกพูดติดอ่าง เกิดจากสาเหตุอะไร
สาเหตุของการเกิดอาการพูดติดอ่าง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากครอบครัวมีประวัติการพูดติดอ่าง พูดช้าหรือพูดไม่ชัดร่วมด้วย ก็จะมีแนวโน้มของอาการเหล่านี้ที่จะส่งต่อให้กับลูกได้ด้วยเช่นเดียวกัน ยังรวมถึงเด็กที่มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือแม้แต่ปัญหาทางการได้ยิน หากสูญเสียการได้ยินตั้งแต่ยังเล็ก ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดปัญหาลูกพูดติดอ่างได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องหมั่นสังเกตนั่นก็คือบุคลิกภาพ เช่น อาการขี้อาย ก็สามารถส่งผลต่อแรงจูงใจในการสื่อสารได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากว่าเด็กขาดการกระตุ้นจากการสื่อสาร ต้องเล่นคนเดียวบ่อยครั้ง ทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับบุคคลคนอื่น ๆ เพราะฉะนั้นคุณแม่สามารถช่วยเหลือลูกตรงนี้ได้ ด้วยการเข้าไปกระตุ้นและเล่นเป็นเพื่อนลูกบ่อยขึ้นนั่นเอง
ลักษณะของการพูดติดอ่าง
การพูดติดอ่างนั้นคุณแม่สามารถสังเกตความผิดปกติเหล่านี้ได้ ตั้งแต่ก่อนขวบปีแรกซึ่งจะสามารถสังเกตได้จากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ปัญหาจากการได้ยิน
เป็นความผิดปกติที่ส่งผลต่อปัญหาทางด้านการสื่อสาร ทำให้ไม่สามารถสื่อสารได้ดี เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
พัฒนาการด้านภาษาช้า
มีความล่าช้าทางด้านพัฒนาการด้านภาษา หรือทักษะการพูด เข้าใจได้ยาก และมีการใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่นได้ไม่ค่อยดี
การเรียบเรียงคำพูดได้ช้า
การเรียบเรียงคำพูดออกมาแต่ละครั้งได้ช้า ใช้น้ำเสียงที่ผิดปกติ และพูดไม่ชัดร่วมด้วย
พูดซ้ำคำเดิมติด ๆ กัน
เช่น การออกเสียงที่ผิดปกติ ยกตัวอย่าง ไป-ไป-ไป-ไปกินข้าว หรือเป็นการพูดที่เว้นเสียงไม่ออกเสียงในบางช่วง
ลูกพูดติดอ่าง แบบไหนควรพบแพทย์
หากคุณแม่พยายามจะแก้ปัญหาลูกพูดติดอ่างด้วยการเล่นกับลูกบ่อย ๆ และการชวนลูกคุยแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นผล จนเริ่มที่จะเข้าสู่วัยเตรียมอนุบาล ลักษณะเช่นนี้ ควรจะต้องพาไปพบแพทย์เฉพาะทาง เช่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาการ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหู คอ จมูก เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจประเมิน โดยจะมีขั้นตอนการแก้ไขที่จะต้องวางแผนร่วมกับผู้ปกครอง
เมื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาแพทย์จะทำการประเมินความผิดปกติของเด็ก ว่ามีปัญหาของพัฒนาการทางด้านใด เพื่อที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการพูดติดอ่างได้ตรงจุด และเมื่อวางแผนการรักษาร่วมกับผู้ปกครองแล้ว ก็จะมีการแนะนำให้กลับไปฝึกต่อที่บ้าน และจะทำการนัดพบแพทย์ซ้ำเพื่อดูผลการฝึกเป็นอย่างไรบ้าง
ปัญหาลูกพูดติดอ่าง แม่ช่วยได้เบื้องต้น
การแก้ปัญหาการพูดติดอ่างเบื้องต้นสามารถเริ่มได้จากครอบครัว การให้กำลังใจและการแสดงออกของคนรอบข้างจะสามารถช่วยเสริมพัฒนาการทางด้านการแสดงออก และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกน้อยได้ เช่น
- เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกด้วยการแสดงการพูดช้า ๆ สั้น ๆ แบบกระชับและชัดเจน ให้ลูกฟัง
- เมื่อลูกอยู่ในช่วงวัยกำลังพูด พยายามไม่พูดแทรก ควรจะฟังจนกว่าลูกจะพูดจบ
- ควรจะต้องใช้เวลาร่วมกับลูกมากยิ่งขึ้น และกระตุ้นเพื่อให้ลูกเกิดความมั่นใจ
- หากลูกกำลังพูดอยู่ไม่ควรแสดงทีท่าหรือสีหน้าที่ทำให้เกิดความลังเล ไม่แน่ใจหรือไม่กล้าพูดต่อ ควรอยู่ในท่าทีที่สบาย เป็นธรรมชาติและไม่เคร่งขรึม
- แสดงความรักและความเอาใจใส่ไม่เปรียบเทียบปัญหาทางด้านการสื่อสารของลูกกับเด็กที่มีอาการปกติคนอื่น ๆ
โดยปกติแล้วเด็กจะมีพัฒนาการทางด้านการสื่อสารที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นหลังจากอายุครบ 1 ปี คุณแม่จะต้องดูแลเอาใจใส่ และใช้เวลาร่วมกับลูกให้มากยิ่งขึ้นควรชวนทำกิจกรรมเพื่อเสริมพัฒนาการและกระตุ้นให้เขากล้าแสดงออก และเมื่อลูกเริ่มมีพัฒนาการในทางที่ดีกล้าแสดงออก และมั่นใจที่จะพูดได้มากขึ้นก็จะช่วยแก้ไขปัญหาการลูกพูดติดอ่างได้
ปัญหาของการพูดติดอ่างในวัยนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากนัก หากคุณพ่อคุณแม่รู้ ไม่ควรที่จะละเลยหรือปล่อยไว้เป็นเวลานาน ควรชวนลุกทำกิจกรรมเพื่อเป็นการกระตุ้นการสื่อสาร ก็จะสามารถทำให้ปัญหาเหล่านี้คลี่คลายได้เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ทั้งนี้ หากในครอบครัวไม่มีประวัติการพูดติดอ่างมาก่อน ก็อาจเป็นได้จากขาดความมั่นใจ ไม่กล้าพูด ไม่กล้าออกความคิดเห็น ดังนั้น หากคุณแม่ให้การเอาใจใส่หมั่นพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ก็จะสามารถแก้ปัญหาลูกพูดติดอ่างได้ค่ะ