5 สัญญาณบอกว่าคุณแม่ใกล้จะคลอดแล้ว

แม้ว่าจะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมื่อไรคือกำหนดการคลอดโดยประมาณของคุณแม่แต่ละคนแต่พอใกล้ถึงเวลาเข้าจริงๆ แล้วความกังวลต่างๆ มันก็น่าจะยิ่งรุมเร้าเข้ามาวันนี้เราจะมาช่วยคุณแม่ให้คลายกังวลเรื่องนี้กันเพราะเราจะรวบรวม 6 สัญญาณที่ถ้าเกิดขึ้นแล้วล่ะก็เตรียมตัวเรียกคุณพ่อกระโดดขึ้นรถตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลกันได้เลยเพราะมันคือสัญญาณที่จะบอกคุณแม่ว่าลูกใกล้จะออกมาให้ชื่นใจกันแล้ว

6 สัญญาณให้คุณแม่เตรียมพร้อมการคลอด

เจ็บท้อง

นี่คือสิ่งพื้นฐานที่สุดที่จะเกิดขึ้นในวันที่คุณแม่พร้อมจะคลอดแล้วแต่คุณแม่หลายคนก็มักจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่มดลูกเกิดอาการบีบตัวหรือหดตัวเป็นระยะมาตั้งแต่ช่วงที่ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน และก็เป็นมาเรื่อยๆ จนยิ่งใกล้คลอดก็ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก ซึ่งอาการเหล่านี้อาจจะทำให้เกิดการสับสนได้ว่านี่คือการเจ็บท้องคลอดหรือไม่ เพราะบางทีก็เป็นการเจ็บท้องหลอกเพื่อที่จะเป็นสัญญาณบอกว่ามดลูกเตรียมพร้อมกับการคลอดไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการคลอดจะเกิดขึ้นทันทีทันใด

แล้วถ้าเป็นแบบนี้อาการเจ็บท้องแบบไหนกันล่ะที่เป็นสัญญาณจริงให้คุณแม่เตรียมพุ่งไปโรงพยาบาลวันนี้เราจะมายกตัวอย่างให้ได้รู้จักกันชัดๆ ไปเลย โดยอาการเจ็บท้องจริงนั้นจะมีอาการปวดอย่างสม่ำเสมอและจะปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ท้องจะแข็งตึง คุณแม่จะสัมผัสได้ถึงความเจ็บที่บริเวณส่วนบนของมดลูกและเริ่มเจ็บร้าวไปที่หลัง และยิ่งถ้าเดินหรือเคลื่อนไหวก็จะยิ่งมีอาการเจ็บปวดเพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย และหากสังเกตให้ดีอาจจะมีมูกเลือดหลุดออกมาจากทางบริเวณช่องคลอดอีกด้วย

สัมผัสได้ว่าลูกดิ้นน้อยลง

ในช่วงเวลาของการใกล้คลอดแล้วนั้นลูกจะเริ่มดิ้นน้อยลงเพราะว่าลูกเติบโตอย่างรวดเร็วและเริ่มตัวใหญ่เมื่อเอาไปเทียบกับขนาดโพรงมดลูกจึงทำให้น้ำคร่ำที่สร้างขึ้นมาอย่างจำกัดนั้นส่งผลให้ลูกในครรภ์เกิดการเคลื่อนไหวที่ลำบากขึ้นนั่นเองแต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณแม่สังเกตแล้วว่าลูกดิ้นน้อยผิดปกติหรือไม่ดิ้นเป็นเวลานานจนเกินไปแล้วนั้นก็ควรรีบไปพบแพทย์เพราะนี่อาจจะเป็นอาการผิดปกติของลูกในครรภ์ก็เป็นได้

อาการท้องลด

ฟังชื่อแล้วอาจจะดูแปลกๆ งงๆ แต่ความจริงอาการท้องลดนั่นก็คือสัญญาณเตือนว่าคุณแม่กำลังใกล้คลอดอย่างหนึ่งนั่นเอง โดยจะเริ่มสังเกตได้ในช่วงหลังตั้งครรภ์ไปแล้ว 36 สัปดาห์ ซึ่งขนาดท้องอาจจะมีขนาดที่เล็กลง สาเหตุก็เนื่องมาจากลูกในครรภ์นั้นเลื่อนตัวต่ำลงนั่นเอง เขาเลื่อนจากบริเวณเหนือเชิงกรานลงไปอยู่บริเวณต่ำลงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมต่อการคลอดที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้นั่นเอง

แต่อาการนี้มีการเกิดขึ้นที่แตกต่างกันไปแล้วแต่กรณีอย่างเช่นในกรณีของคุณแม่ที่เป็นท้องที่สองก็อาจจะเกิดอาการท้องลดช้าลงหรือในคุณแม่ท้องแรกบางคนแม้จะใกล้เวลาคลอดเข้ามามากแล้วก็ยังไม่มีอาการท้องลดปรากฏให้เห็นกันเลยก็มี

น้ำเดิน

อาการน้ำเดินถ้ามันเกิดขึ้นแล้วไม่ว่าคุณแม่จะมีอาการเจ็บท้องร่วมด้วยหรือไม่ก็ตามก็ควรรีบไปพบแพทย์ในทันทีเพราะสายสะดือของลูกในครรภ์อาจจะถูกกดทับจนทำให้มีภาวะน้ำคร่ำลดน้อยลงหรือภาวะสายสะดือโผล่ก็เป็นได้ และหากทิ้งในภาวะน้ำเดินคงอยู่นานเกินกว่า 18 ชั่วโมงอาจจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบและติดเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูกได้อีกด้วย และถ้าโดยปกติแล้วนั้นคุณแม่ที่มีอาการน้ำเดินจะมีโอกาสคลอดได้ภายใน 12 ชั่วโมงอีกด้วย

ปากมดลูกเปิด

ถ้าอยู่ในช่วงระหว่างตั้งท้องนั้นปากมดลูกของคุณแม่จะหนาและปิดค่อนข้างสนิทเพื่อเป็นการป้องกันลูกน้อยในครรภ์แต่ร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อถึงเวลาใกล้คลอดโดยตัวปากมดลูกจะเริ่มมีอาการที่อ่อนนุ่มลง บางลง และเริ่มสั้นขึ้นเรื่อยๆ จนขยายกว้างออกถึงประมาณ 10 เซนติเมตร เพื่อให้ทารกนั้นคลอดออกได้สำเร็จนั่นเอง

เมื่อถึงเวลาใกล้คลอดแล้วนั้นปากมดลูกจะเริ่มเปิดและขยายเองแบบอัตโนมัติทำให้มูกและเลือดบริเวณปากมดลูกไหลออกมาผ่านทางช่องคลอดรวมทั้งยังทำให้เส้นเลือดบริเวณปากมดลูกเกิดการแตกทำให้มีเลือดพร้อมมูกซึ่งนี่แหละคืออาการใกล้คลอดที่แท้จริงให้คุณแม่รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลกันได้เลย

การหมั่นคอยสังเกตและดูแลตัวเองของคุณแม่อยู่เสมอนั้นจะทำให้สามารถจับสังเกตอาการใกล้คลอดได้ดียิ่งขึ้นและไปถึงโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที และการดูแลตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอนั้นก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากให้ร่างกายแข็งแรงและทำให้การคลอดเป็นไปได้ง่ายดายขึ้นรวมทั้งเมื่อคลอดแล้วร่างกายก็จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP