อาการของแม่หลังคลอด ที่ต้องเจอใน 24 ชั่วโมง มีอะไรบ้าง?

การคลอดและหลังคลอด
JESSIE MUM

ตอนรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีลูก มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากค่ะ มันรู้สึกอบอุ่นที่มีอีกคนอยู่ในตัวเรา เวลาที่เราไปไหน หรือทำอะไรก็มีเขาไปด้วย เวลาผ่านมาจนวันที่จะเข้าห้องคลอด ยิ่งตื่นเต้นใหญ่ ตื่นเต้นเสียจนไม่ได้คิดเลยว่าหลังคลอดจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งสิ่งที่แม่โน้ตจะมาแชร์ในวันนี้ไม่ได้เจตนาที่จะทำให้คุณแม่รู้สึกหวาดกลัวหรือกังวลนะคะ กลับกันแม่โน้ตเจตนาอยากให้คุณแม่ได้เรียนรู้และรับมือกับอาการนั้น ๆ อย่างมีสติค่ะ

อาการของแม่หลังคลอด ที่ต้องเจอใน 24 ชั่วโมง

หลังจากที่คุณแม่คลอด คุณแม่จะมีหลาย ๆ อย่างที่ควรรู้และควรเตรียมพร้อมในการรับมือ เนื่องจากบางอาการอาจมีอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิต หากเราละเลยหรือไม่ได้สังเกตร่างกายของตัวเอง ซึ่งอาการหลังคลอดที่คุณแม่ต้องเจอใน 24 ชั่วโมง มีดังนี้

อาการตกเลือด

อาการตกเลือดมักเกิดขึ้นหลังจากที่คุณแม่คลอดลูก และมักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด คุณแม่บางรายเสียเลือดมาก และรักษาไม่ทัน อาจเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ของแม่โน้ตเองพยาบาลจะแนะนำว่าให้เราลุกเดิน ถึงแม้จะเจ็บแผลผ่าคลอดก็ตาม เพื่อเป็นการขับรก และสิ่งตกค้างอื่น ๆ ออกให้หมด และเพื่อที่จะได้แยกแยะได้หากเรามีเลือดออกเยอะเกินไป เพราะนั่นคือ อาการตกเลือด ซึ่งพยาบาลจะรู้ได้ทันที และเราก็จะได้รับการรักษาจากคุณหมอได้ทันท่วงทีค่ะ

เจ็บแผลผ่าคลอด หรือแผลฝีเย็บ

อาการเจ็บนี้สามารถเกิดได้ทั้งในคุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติ ซึ่งจะเจ็บที่ฝีเย็บ และคุณแม่ที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด ซึ่งจะเจ็บที่แผลผ่าคลอด แม่โน้ตเจ็บแผลผ่าคลอด โดยเจ็บและปวดเป็นพัก ๆ เรียกได้ว่าพอหมดฤทธิ์ยาชาก็เจ็บเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถบอกพยาบาล เพื่อขอยาเพื่อบรรเทาอาการปวดได้

มีไข้ หนาวสั่น

อาการไข้ หรือหนาววันนี้สามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือช่วงที่ยาชาหมดฤทธิ์ค่ะ โดยคุณแม่จะรู้สึกว่ามีไข้รุม ๆ บางรายจะค่อนข้างสูงสักหน่อย จนทำให้คุณแม่รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่คุณแม่ต้องเสียเลือดมากในขณะที่คลอดลูก ร่างกายจึงปรับตัวไม่ทัน จึงทำให้มีไข้ และหนาวสั่นนั่นเอง ทั้งนี้ หากคุณแม่ทนไม่ไหว สามารถแจ้งพยาบาลเพื่อขอยาแก้ไข้ได้ค่ะ

เจ็บเต้านม เต้านมอักเสบ

หลังคลอดภายใน 24 ชั่วโมง พยาบาลจะให้ลูกมาเข้าเต้าค่ะ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้น้ำนมไหลได้ดี ร่างกายคุณแม่ก็จะเรียนรู้ว่ามีน้ำนมไหลออกแล้ว ดังนั้น ร่างกายก็จะมีการผลิตน้ำนมเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยในอนาคต กลับกันหากคุณแม่ไม่ได้รีบให้นมลูกภายใน 24 ชั่วโมงแล้วล่ะก็ เต้านมของคุณแม่จะเจ็บมาก และเกิดการอักเสบได้ค่ะ

ปัสสาวะเจ็บ ติดขัด

เนื่องจากขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ มดลูกมีการเบียนทับกระเพาะและท่อปัสสาวะ จนทำให้ท่อปัสสาวะนั้นบวม ส่งผลให้เมื่อหลังคลอด เวลาที่คุณแม่ปัสสาวะนั้นรู้สึกเจ็บ หรือติด ๆ ขัด ๆ ขับออกมาได้ไม่หมด แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ ยกเว้นว่าถ้ารู้สึกเจ็บมากจนทนไม่ไหว ให้ปรึกษาแพทย์ค่ะ

มีน้ำคาวปลา

ในส่วนของน้ำคาวปลานี้ จะมีการไหลออกมาทันทีหลังคลอด เรียกได้ว่าไหลแทนประจำเดือนเลยค่ะ ซึ่งน้ำคาวปลาที่ไหลออกมานั้นเป็นการขับของเสียหลังคลอด ลักษณะจะคล้ายประจำเดือน และจะมีสีที่จางลงภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด ดังนั้น คุณแม่ควรเตรียมผ้าอนามัยหนา ๆ เอาไว้ ในปริมาณที่มากสักหน่อย (ติดตามเพิ่มเติม >> น้ำคาวปลากี่วันหมด สีไหนที่เรียกว่าผิดปกติ


น้ำคาวปลาออกมาเยอะมาก เมื่อไหร่จะหมด? น้ำคาวปลาเป็นสิ่งที่ธรรมชาตสร้างขึ้นและขับออกโดยอัตโนมัติหลังคลอด แต่จะนานเท่าไหร่ แบบไหนที่ผิดปกติ คลิกที่นี่

อาการเหล่านี้เป็นอาการที่คุณแม่หลังคลอดจะต้องเจอภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งคุณแม่ส่วนใหญ่จะโฟกัสอยู่ที่ลูกน้อย จนลืมใส่ใจตัวเอง แต่วันนี้คุณแม่ได้รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมหันมาใส่ใจตัวเอง เพื่อที่จะได้มีร่างกายที่แข็งแรง ไปดูแลลูกน้อยกันต่อนะคะ ซึ่งหลังจากนี้ หลังจากที่คุณแม่กลับบ้านแล้ว อาการอื่น ๆ ที่คุณแม่เลี่ยงไม่ได้เลยคือ “อาการซึมเศร้าหลังคลอด” คุณแม่สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> Baby Blue ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด…เลี้ยงลูกน่าจะสุข แต่ทำไมเราทุกข์อยู่คนเดียว


ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด…เช็คด่วนว่าเราเข้าข่ายไหม? ไปชมกันค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP