ของแสลง หลังคลอด ที่แม่ให้นมต้องระวัง

การคลอดและหลังคลอด
JESSIE MUM

คุณแม่หลังคลอดร่างกายจะอ่อนเพลียมากจากการคลอด ในขณะที่ก็ไม่สามารถที่จะรอเวลาพักฟื้นให้เต็มที่ได้เนื่องจากมีลูกน้อยที่รอการให้นมจากคุณแม่อยู่ เพราะฉะนั้นคุณแม่หลังคลอดจึงควรได้รับอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดทั้งต่อร่างกายคุณแม่เองและเป็นการบำรุงน้ำนมให้ลูกน้อย “ของแสลง” จึงเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงอย่างยิ่ง ผลลบที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบแค่คุณแม่เท่านั้น แต่ยังส่งผ่านไปถึงลูกน้อยทางน้ำนมได้อีกด้วย

ของแสลง คืออะไร?

ในแง่ของแพทย์แผนจีนกับเรื่องของอาหารมีพื้นฐานมาจากที่ว่า “อาหารคือยา อาหารและยามีแหล่งที่มาที่เดียวกัน” ซึ่งถ้าพูดในแง่ของคนไข้การเลือกกินอาหารให้เหมาะสมกับโรคก็จะทำให้โรคทุเลาลง นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของการรักษา และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดี
ในทางตรงกันข้ามหากคุณแม่หลังคลอดเลือกกินอาหารที่ไม่เหมาะสมก็จะส่งผลทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าหรืออาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น

ของแสลง หรืออาหารแสลง มีความหมายที่กว้าง ดังนี้

  • กินอาหารที่มากหรือน้อยเกินไปก็เกิดโทษ
  • กินอาหารชนิดเดียวกัน แบบเดิม ซ้ำซากก็เกิดโทษ
  • กินอาหารที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะธาตุของแต่ละบุคคลก็เกิดโทษ
  • กินอาหารที่ไม่สอดคล้องกับภาวะเจ็บไข้ได้ป่วย
  • กินอาหารที่ไม่สอดคล้องกับยาสมุนไพรที่ใช้รักษาขณะที่เป็นโรค

ข้อมูลอ้างอิง rajavithi.go.th

ของแสลง หลังคลอดมีอะไรบ้าง?

กาแฟ

เมื่อพูดถึงกาแฟ สิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงคือ “คาเฟอีน” ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ให้เกิดการตื่นตัว แม้ว่าคุณแม่ขอต่อรองว่ากินแค่อึกเดียว แต่จะอึกเดียวหรือครึ่งอึกก็เป็นการนำคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายแล้วค่ะ ซึ่งคาเฟอีนนี้สามารถส่งผ่านไปยังลูกน้อยได้ทางน้ำนม

ดังนั้นเมื่อลูกน้อยได้รับคาเฟอีนเข้าร่างกาย เขายังไม่สามารถที่จะขับคาเฟอีนออกมาได้เองทั้งหมด จึงส่งผลให้ลูกน้อยตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ยอมนอน ที่สำคัญ คาเฟอีนในจำนวนมาก ๆ สามารถลดระดับธาตุเหล็กในน้ำนมแม่อีกด้วยนะคะ

เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมากและของหวาน

อาทิ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม น้ำหวานชนิดต่าง ๆ และขนมหวานชนิดต่าง ๆ จะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก ถ้าหากคุณแม่ที่อยู่ในระยะให้นมกินเข้าไป ปริมาณน้ำตาลที่สูงหรือน้ำตาลมือสองนี้จะถูกส่งต่อไปให้ลูกน้อยทางน้ำนม จะส่งผลให้ดัชนีมวลกาย (BMI) ของลูกน้อยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็สามารถนำไปสู่โรคอ้วนและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้

ช็อกโกแลต

ช็อกโกแลตก็เป็นหนึ่งในอาหารต้องห้ามค่ะ เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสาร Theobromine ซึ่งมีผลคล้ายกับคาเฟอีน และเป็นที่รู้กันดีว่าช็อกโกแลตก็มีปริมาณน้ำตาลที่สูง หากคุณแม่กินเข้าไปแล้วล่ะก็ได้เห็นลูกน้อยหงุดหงิด งอแงแน่นอน

ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

จริงอยู่ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะอุดมไปด้วยวิตามินซี แต่ด้วยความเปรี้ยวของมันจะทำให้กระเพาะของลูกน้อยเกิดความระคายเคืองได้ นอกจากนี้ความเปรี้ยวมีแนวโนมที่จะทำให้กลิ่นของรสชาติในน้ำนมนั้นเปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลให้ลูกน้อยไม่ยอมเข้าเต้าได้ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ได้แก่ ส้ม มะนาว เกรพฟรุต กีวี และสับปะรด

เชอร์รี่ เบอร์รี่ พรุน

ผลไม้เหล่านี้จะดีมากสำหรับลูกน้อยที่สามารถเคี้ยวได้แล้ว แต่ถ้าหากลูกน้อยยังกินนมแม่อย่างเดียว การที่คุณแม่กินผลไม้เหล่านี้เข้าไปจะส่งผลให้ลูกน้อยท้องอืด ท้องเฟ้อ เกิดแก๊สในกระเพาะได้ เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของลูกน้อยยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่

ปลาที่มีปริมาณสารปรอทสูง

ได้แก่ ปลากระโทง ปลาอินทรีย์ ปลาเก๋า ปลาฉลาม ปลาทูน่าครีบเหลือง หากสารปรอทเข้าสู่ร่างกายลูกน้อยจะส่งต่อการเจริญเติบโตทางระบบประสาทของลูกน้อย

แอลกอฮอล์

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ระบุว่า การที่คุณแม่ดื่มแอลกอฮอล์เพียงหนึ่งดริ้งค์จะไม่เป็นอันตรายต่อทารก แต่ทางที่ดีที่สุดเลี่ยงได้เลี่ยงดีกว่าค่ะ หรือถ้าต้องการดื่มจริง ๆ สามารถดื่มเป็นเครื่องดื่มแบบม็อกเทลซึ่งมีสูตรคล้ายกับค็อกเทลแต่ไม่มีแอลกอฮอล์แทนได้ค่ะ

อาหารที่มีกลิ่นแรง

อาทิ สะตอ กระเทียม และทุเรียน อาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่กลิ่นแรง สะตอมีสารประกอบทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ มีปริมาณสารกำมะถันสูง มีฤทธิ์ที่ช่วยในการขับถ่าย

อาหารรสจัด และรสเผ็ด

ได้แก่ น้ำพริก ต้มยำ รวมถึงเครื่องแกงต่าง ๆ อาหารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีพริกเป็นส่วนประกอบ แต่การที่คุณแม่กินพริกเข้าไปไม่ได้หมายความว่าน้ำนมแม่จะเผ็ดนะคะ เพียงแต่สารอาหารในพริกต่างหากที่ทำให้กลิ่นของน้ำนมของคุณแม่เปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้ลูกปฏิเสธการกินนมได้

ข้าวโพด

สารอาหารในข้าวโพดที่ถูกส่งต่อลูกน้อยผ่านน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารที่ทำให้ลูกน้อยเกิดอาการคัน มีลมพิษขึ้นที่รอบดวงตา และคัดจมูก บางรายอาจมีอาการหายใจลำบาก ครืดคราด หอบ คอบวม และช็อกได้

ความเป็น “แม่” โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลตัวเองให้ดี เลือกกินแต่อาหารที่เหมาะสมกับระยะเวลานั้น ๆ บางคนได้อยู่ไฟหลังคลอด “อยู่ไฟหลังคลอดกินอะไรได้บ้าง เมนูอาหารแม่หลังคลอด พร้อมวิธีทำ” เพื่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยที่มีประสิทธิภาพนะคะ


อยู่ไฟหลังคลอดมาแล้ว จะกินอาหารอะไรได้บ้าง? พบกับเมนูอาหารแม่หลังคลอดได้ที่นี่ พร้อมวิธีทำ คลิกที่นี่

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP