7 วิธีบอกลา หัวนมแตก เจ็บหัวนม

นมแม่

การให้นมลูกแบบเข้าเต้าเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุด แต่วันนึงคุณแม่มาพบว่าตัวเองมีอาการเจ็บหัวนม เพราะหัวนมแตก ก่อนจะบอกว่าลูกทำแม่หัวนมแตกนั้น เรามาดูสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าเพราะอะไร แล้วค่อยไปดูวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องหัวนมแตกกัน

สาเหตุหัวนมแตก

สาเหตุที่ทำให้หัวนมคุณแม่แตกนั้นก็เป็นเพราะว่า เวลาที่เอาลูกเข้าเต้านั้น ให้ลูกงับไปไม่ถึงลานนม เวลาลูกดูดก็จะไม่ค่อยได้น้ำนมเท่าไหร่ ทำให้ลูกต้องใช้แรงในการดูดมาก และทำให้ลูกหันมางับที่หัวนมแทน ทำให้เกิดอาการอักเสบได้

หัวนมแตกจะส่งผลต่อการให้นมลูกหรือไม่

หัวนมแตกเป็นอาการที่ไม่รุนแรง คุณแม่สามารถให้นมลูกต่อได้ เพียงแต่อาจมีในบางกรณีที่มีเลือดไหลปนออกมากับน้ำนมที่ลูกน้อยดูดกินเข้าไป ก็อาจทำให้อุจจาระของลูกมีเลือดปน หรือเด็กบางคนอาจอาเจียนออกมาซึ่งก็สามารถมีเลือดของคุณแม่ปนออกมาได้เช่นกัน
ทั้งนี้ จากการอาการเจ็บหัวนม อาจทำให้คุณแม่ให้นมลูกได้ไม่ดีนัก ลูกกินไม่อิ่ม อาจทำให้ร้องไห้งอแงได้ คุณแม่อาจใช้วิธีการปั๊มนมเพื่อป้อนลูกน้อยไปก่อนชั่วคราว และไปปรึกษาแพทย์ค่ะ

ทำให้ถูกท่าก่อนหัวนมแตก

เพราะหากคุณแม่อุ้มลูกเข้าเต้าไม่ถูกท่า อาจส่งผลให้หัวนมแตกได้ ดังนั้น ที่ถูกต้องควรทำดังนี้

  • อุ้มลูกให้เข้ามาชิดกับตัว แนบกับท้อง
  • ไม่ล้างหรือเช็ดหัวนมมากเกินไป
  • งดการใช่สบู่หรือครีมทาที่หัวนม
  • ระวังอย่าให้เต้านมคัดจนเกินไป ทำให้ลูกดูดไม่สะดวก เพราะเต้าจะตึงมาก ลูกต้องใช้แรงในการงับเยอะ สุดท้ายคือ ทำให้ท่าดูดผิดไป

หัวนมแตกแต่ยังอยากให้นม ทำอย่างไรดี

คุณแม่บางคนเจ็บหัวนม หัวนมแตกแล้วแต่ยังอยากให้นมแบบเข้าเต้าอยู่และหากลูกบางคนก็ติดเต้า สามารถทำได้ดังนี้ค่ะ

  • เริ่มให้นมจากข้างที่เจ็บน้อยก่อน ซึ่งอย่าลืมนะคะ เวลาเข้าเต้าคุณแม่ต้องปรับท่าและการดูดให้ถูกต้อง โดยให้ลูกงับเข้าไปถึงลานนม
  • หลังให้นมเสร็จ ก็ใช้น้ำนมของคุณแม่ทาที่หัวนมซักหน่อย แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
  • แต่หากคุณแม่เจ็บมากจนทนไม่ไหว ให้เปลี่ยนวิธีมาเป็นการบีบหรือปั๊มนมให้ลูกแทน ซึ่งวิธีการนี้จะยังเป็นการกระตุ้นให้น้ำนมยังผลิตอยู่ เมื่อคุณแม่หายดีแล้วค่อยกลับมาเป็นการให้นมแบบเข้าเต้าได้เหมือนเดิม

แก้ปัญหาหัวนมแตก

ปรับให้ลูกดูดให้ถูกท่า

ถึงแม้ว่าหัวนมคุณแม่จะแตกแล้ว แต่หากคุณแม่ยังทนไหว และอยากให้นมลูกแบบเข้าเต้า คุณแม่ก็ทำได้ค่ะ แต่คราวนี้คุณแม่ต้องอุ้มในท่าที่ถูกต้อง จมูก แก้ม และคางลูกควรสัมผัสกับเต้านม ริมฝีปากลูกควรแบะออกเหมือนปลา

บีบน้ำนมออกมาเล็กน้อย

ถ้าเต้านมคัดมาก ให้คุณแม่บีบน้ำนมออกมาเล็กน้อย เพื่อให้เต้านมนิ่มขึ้น ลูกก็จะดูดง่ายขึ้น

ดูดข้างที่เจ็บน้อยก่อน

ให้ลูกเริ่มดูดจากข้างที่เจ็บน้อยที่สุดก่อน แต่หากสองข้างเจ็บพอๆ กัน ก่อนให้นมลูก ให้คุณแม่เอาผ้าชุบน้ำอุ่น มาประคบรอบ ๆ เต้าก่อน เพื่อให้น้ำนมไหลง่ายขึ้น

ลดระยะเวลาที่ดูดให้สั้นลง

ถ้าจำเป็นต้องให้นมลูกทุก ๆ 1-2 ชม. คุณแม่ควรลดเวลาในการดูดแต่ละครั้งให้สั้นลงเหลือประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่าเต้าจะนิ่ม

อุ้มลูกให้กระชับ

อุ้มลูกให้กระชับที่สุดคือต้องไม่ให้เค้าสามารถดึงหัวนมเล่นได้ และเมื่อเค้าอิ่มแล้ว อย่าลืมปลดแรงดูดของลูกก่อนที่จะเอาหัวนมออกจากปากลูก

ไม่ต้องล้างหัวนมก่อนให้ลูกดูด

ก่อนให้นมลูก คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเช็ดหรือล้างหัวนมบ่อย ๆ นะคะ เพราะจะยิ่งทำให้หัวนมแห้ง และจะแตกได้ง่าย

ใช้น้ำนมแม่ทาหัวนม

หลังจากที่ลูกกินนมอิ่มแล้วทุกครั้ง ให้คุณแม่บีบน้ำนมเหลืองหรือน้ำนมแม่ทาบนลานนมและหัวนมทั้งสองข้าง แต่ถ้าอยากให้ผิวชุ่มชื้นมากกว่านี้ คุณแม่อาจใช้ลาโนลิน (ไขมันชนิดหนึ่ง) แทนได้ค่ะ ใช้ในปริมาณเล็กน้อยก็พอ อย่าใช้สบู่ ครีม หรือน้ำมันนะคะ

หัวนมแตก เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

ในข้อนี้ขอแยกเป็น 2 กรณี ดังนี้

  1. อาการไม่รุนแรง : คุณแม่ก็สามารถให้นมลูกต่อไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปปรึกษาแพทย์ค่ะ
  2. มีอาการเจ็บหัวนมอย่างรุนแรง : หากเป็นในกรณีนี้ที่มีอาการเจ็บอย่างรุนแรง คุณแม่เองก็พยายามบรรเทาอาการด้วยตัวเองแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ เพราะหากปล่อยนานไป อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ในภายหลัง

ปัญหาหัวนมแตก เป็นปัญหาที่คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจเผชิญอยู่ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่คุณแม่มือใหม่ไม่รู้ ก็คือ “การเข้าเต้าที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไร?” ซึ่งถ้าวันนี้คุณแม่ยังให้นมในท่าที่ไม่ถูกต้องอยู่ล่ะก็ รีบเปลี่ยนด่วนนะคะ เพราะการให้ลูกได้เข้าเต้าเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ


การเข้าเต้าที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร? ยากไหม? ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ทำตามวิธีที่เราแนะนำในนี้ คลิกที่นี่

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP