ทันทีที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ อย่างก็จะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เริ่มจากฮอร์โมนก่อนเลย จนบางครั้งคุณแม่ก็โมโหใส่ อีกสักนาทีผ่านไปหัวเราะได้แล้ว แต่…ไม่ใช่ไบโพลาร์นะคะ และเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ท้องใหญ่ขึ้นทำอะไรก็อุ้ยอ้ายมากขึ้น เรียกได้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเลยทีเดียวที่แม่ท้องอยากให้คุณพ่อเข้าใจและดูแลกันสักนิด
สารบัญ
- 13 เรื่องที่แม่ท้องอยากให้พ่อเข้าใจและดูแลกัน
- ง่วงบ่อย งีบได้งีบ
- ปวดปัสสาวะบ่อย
- ทาครีมเยอะและบ่อย เพราะกลัวท้องลาย
- ตดบ่อย มันควบคุมไม่ได้นี่นา
- จะลุก จะนั่งเองก็ไม่ค่อยได้
- ลูกจะดิ้นบ่อย เป็นเรื่องปกติ
- อยากกินอะไรต้องได้กิน ต้องเดี๋ยวนั้น
- ห้ามสามีกินของที่ให้ซื้อมา
- อารมณ์ฉุนเฉียวแบบไม่มีสาเหตุ
- ก้มลงไปตัดเล็บเท้าไม่ถึง
- สามีโทรคุย และสอบถามอาการบ่อยหน่อย
- พาแม่ท้องไปหาคุณหมอตามนัด
- บีบนวดคุณแม่ท้องตามสมควร
13 เรื่องที่แม่ท้องอยากให้พ่อเข้าใจและดูแลกัน
ง่วงบ่อย งีบได้งีบ
เรื่องง่วง เรื่องงีบเป็นเรื่องปกติของคุณแม่ท้องเลยค่ะ แต่ในสายตาของคุณพ่ออาจดูว่าแม่ท้องง่วงตลอดเวลา ซึ่งอาการง่วงเกิดจาก ในบางคืนคุณแม่ท้องจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะลูกดิ้น เพราะกังวล หรือคุณแม่บางคนอาจมีปัญหาเรื่องท่านอนที่ยังไม่ลงสักที (แต่ไม่นานก็จะคุ้นชินนะคะคุณแม่) และเมื่อมีอายุครรภ์ที่มากขึ้น ก็จะเริ่มปัสสาวะบ่อยไม่ว่าจะทั้งกลางวันหรือกลางคืน เหล่านี้จึงทำให้คุณแม่ง่วงบ่อยนั่นเองค่ะ
ปวดปัสสาวะบ่อย
นั่นก็เพราะว่า มดลูกมีการขายตัวมากขึ้น จึงทำให้ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะจึงทำให้คุณแม่ท้องปวดปัสสาวะบ่อยนั่นเอง จนบางครั้งคุณแม่บางคนเลือกที่จะกลั้นปัสสาวะไว้ เพราะอาจจะยังไม่สะดวกเข้าห้องน้ำซึ่งจะมีความเสี่ยง ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้นะคะ
ทาครีมเยอะและบ่อย เพราะกลัวท้องลาย
โบกเข้าไป โบกเข้าไป ไม่ใช่ปูนนะคะ แต่เป็นครีมกันท้องลาย อย่างโน้ตเองนี่ทาท้องตั้งแต่ตอนท้องได้ 2 เดือนกันเอาไว้ก่อน^^ ซึ่งคุณแม่บางคนอาจมีสิว บางคนผิวแห้ง คือถ้าเป็นเยอะ แนะนำลองปรึกษาคุณหมอเลยค่ะ เพื่อความสบายใจและถูกต้อง คุณแม่จะได้ลดความกังวลลงได้ค่ะ
ตดบ่อย มันควบคุมไม่ได้นี่นา
เคยค่ะ พูดเลย 555 ถามว่าอายไหม? …อายค่ะ ก็มันควบคุมไม่ได้นี่นา โดยสาเหตุเกิดจากมดลูกของคุณแม่ขยายตัวมากขึ้น จึงไปเบียดพื้นที่ของกระเพาะอาหารจนเหลือน้อยลง ทำให้กระเพาะอาหารทำงานได้ไม่สะดวก ย่อยอาหารได้ไม่เต็มที่ จนทำให้ลมในกระเพาะอาหารตีขึ้นมากลายเป็นตดหรือเรอนั่นเองค่ะ
จะลุก จะนั่งเองก็ไม่ค่อยได้
จะบอกว่าเหมือนตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่เชิง เพราะนั่งแล้วลุกเองไม่ได้ ยิ่งถ้าท้องโตมากขึ้นการที่จะนั่ง จะนอน จะลุก จะเดิน ฯลฯ จะค่อยข้างลำบากแล้ว ยิ่งเวลาจะขึ้นหรือลงบันไดยิ่งลำบากค่ะ เพราะคุณแม่ท้องจะมองไม่เห็นเท้าของตัวเอง คุณพ่อควรดูแลคุณแม่ที่ใกล้คลอดอย่างใกล้ชิดหรือช่วยเหลือกันในยามจำเป็นนะคะ
ลูกจะดิ้นบ่อย เป็นเรื่องปกติ
ลูกดิ้น = ความสุข เพราะคุณแม่จะได้รู้ว่าลูกยังแข็งแรงดี และมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าอยู่ แต่…ทารกบางคนอาจดิ้นแรงจนทำให้คุณแม่เจ็บท้องได้ ยิ่งถ้าใกล้คลอด ทารกก็จะยิ่งดิ้นแรงและถี่ขึ้น แต่ถ้าวันไหนที่คุณแม่รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง แนะนำควรปรึกษาคุณหมอนะคะ เพื่อเช็คดูว่าลูกในท้องยังปกติดีอยู่ไหม
อยากกินอะไรต้องได้กิน ต้องเดี๋ยวนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเวลากี่โมงกี่ยาม คุณพ่อเตรียมน้ำมันให้เต็มถังไว้เลยค่ะ ได้ใช้แน่นอน
ห้ามสามีกินของที่ให้ซื้อมา
แม้ว่าอาหารนั้น ๆ คุณแม่จะกินไม่ทันก็ตาม 555 แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามคุณพ่อเผลอกินอาหารของคุณแม่เข้าไป คุณแม่จะองค์ลงทันที โลกจะไม่สงบสุขค่ะ^^
อารมณ์ฉุนเฉียวแบบไม่มีสาเหตุ
ข้อนี้คุณแม่ก็ควบคุมไม่ได้ เนื่องมาจากฮอร์โมนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคุณพ่อเองก็ไม่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดได้เช่นกันค่ะ หุหุ
ก้มลงไปตัดเล็บเท้าไม่ถึง
คุณพ่อช่วยทีค่ะ เพราะยิ่งท้องโตคุณแม่จะก้มไม่ลง มองเท้าตัวเองไม่เห็น แต่เล็งดี ๆ นะคะ อย่างให้เข้าเนื้อน้า
สามีโทรคุย และสอบถามอาการบ่อยหน่อย
จะพูดง่าย ๆ ก็คือ ให้คุณพ่อเพิ่มความใส่ใจคุณแม่อีกสักนิดนะคะ เท่านี้คุณแม่ก็มีความสุขขึ้นอีกโขเลยค่ะ
พาแม่ท้องไปหาคุณหมอตามนัด
ความอบอุ่นใดเล่าจะเท่าการที่คุณพ่อดูแลใส่ใจคุณแม่อย่างดี ได้ไปหาคุณหมอเพื่อตรวจครรภ์ด้วยกัน ไปดูพัฒนาการของลูกว่าเป็นอย่างไร ไปฟังเสียงหัวใจของลูก
บีบนวดคุณแม่ท้องตามสมควร
เมื่อท้องคุณแม่ใหญ่ขึ้นอาการปวดเมื่อยก็เริ่มถามหา หลังบ้าง ขาบ้าง แขนบ้าง แต่การบีบนวดทำได้แค่บีบเพื่อคลายปวดเมื่อยนะคะ ไม่ใช่นวดหนักเหมือนการนวดเส้น และจะนวดได้ก็เฉพาะแขน และขา หรือบ่าเท่านั้น ไม่นวดท้องนะคะ เพราะเสี่ยงอันตรายอาจทำให้ลูกคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ
หากคุณพ่อดูแลคุณแม่ได้ดีแล้ว ทำให้คุณแม่อารมณ์ดี มีความสุข ก็จะส่งผลดีต่อลูกในท้องนะคะ จริง ๆ นะ ไม่ได้โม้….^^ (คุณสมรักษ์ คำสิงห์กล่าว)