5 ประเทศไม่ไกล…ดี๊ดี น่าพาลูกไปเที่ยว

ไลฟ์สไตล์
JESSIE MUM

ช่วงนี้มีแต่สายการบินออกโปรโมชั่นมาล่อตาล่อใจคุณแม่กันเยอะน่าดู พอเห็นราคาตั๋วแล้วลองคำนวณดู ค่าใช้จ่ายนี่พอๆ กันกับเที่ยวในประเทศไทยเลยนะคะ ไม่แปลกใจเลยที่เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ฮิตแบกเป้อุ้มลูกเที่ยว ไม่ว่าจะใกล้ไกลถ้าคุณแม่มีการจัดการดูแลลูกที่ดี เชื่อว่าการท่องเที่ยวต่างประเทศคงไม่มีปัญหากับเจ้าตัวเล็กแน่นอนค่ะ แถมยังสร้างประสบการณ์ ความประทับใจ และกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ดีเยี่ยมเลย มาดูกันค่ะว่ามีประเทศไหนบ้างที่น่าพาลูกไปเที่ยว เรียนรู้ การอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ลำบากบ้าง

1.ญี่ปุ่น

อันดับแรกต้องยกให้ประเทศที่ 1 ในเอเชียนี่เลยค่ะ ใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากประเทศไทย โดยการนั่งเครื่องบินไม่นานจนเกินไป ถ้าเมืองใกล้ๆ อย่างโอซาก้า ก็แค่ 6 ชั่วโมง ส่วนเมืองโตเกียว 7 ชั่วโมง และขึ้นไปทางเหนือหน่อยอย่างฮอกไกโดก็ 8 ชั่วโมง ถ้าคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าบินตรงจะทำให้ลูกอดทนไม่ไหว ลองดูเป็นเส้นทางการบินที่มีการแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องที่บางประเทศ อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี ก็ดีเหมือนกันนะคะ ประเทศนี้เดินทางภายในประเทศได้สะดวกสบายมาก เพราะขึ้นชื่อเรื่องรถไฟ และถึงจะพาลูกเล็กไปก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ แทบทุกที่ในญี่ปุ่นมักมีที่เปลี่ยนผ้าอ้อม รถเข็นเด็ก และห้องน้ำสำหรับคุณแม่ที่ต้องกระเตงลูกเข้าห้องน้ำไปด้วย โดยในห้องน้ำก็จะมีที่นั่งเด็กไว้รอคุณแม่ทำธุระส่วนตัวได้ค่ะ และที่สำคัญประเทศนี้ไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีแต่ตัวการ์ตูนน่ารักๆ เต็มไปหมด เด็กๆ เห็นแล้วต้องปลื้มแน่นอน สวนสนุกก็ขึ้นชื่อระดับโลก เช่น UniversalStudio ที่โอซาก้า, Tokyo Disney Land ที่โตเกียว แต่การไปเที่ยวประเทศนี้คุณพ่อคุณแม่ควรทำการบ้านวางแผนการเดินทางให้ดีหน่อยนะคะ เพราะรถไฟบ้านเค้าเป๊ะมาก ตรงเวลาสุดๆ และเรื่องสภาพอากาศ หากเป็นช่วงฤดูอื่นที่ไม่ใช่ฤดูร้อน ควรเตรียมเสื้อผ้าของลูกให้เหมาะสมด้วยนะคะ อย่างบางครอบครัวพาไปหิมะ อากาศติดลบ หากเตรียมเครื่องกันหนาวไม่พร้อมแล้วละก็ เดี๋ยวป่วยแล้วจะเที่ยวไม่สนุกค่ะ

2.สิงคโปร์

อีกประเทศที่อยากแนะนำให้พาลูกๆ ไปเที่ยวก็คือ สิงคโปร์ นี่ละค่ะ ไม่ไกลเลย ใช้เวลาในการเดินทางพอๆ กับการไปเที่ยวในประเทศเลยค่ะ ที่นี่ก็การเดินทางสะดวกสบายใช้กัน โดยใช้รถไฟเป็นหลักเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น และสภาพอากาศก็ไม่แตกต่างจากบ้านเราเลยค่ะ เพราะฉะนั้นหมดห่วงเรื่องเสื้อผ้าได้เลย อาจจะดูเหมือนค่าครองชีพสูง แต่ส่วนใหญ่มักใช้ระยะเวลาในการท่องเที่ยวประเทศนี้กันไม่นานหรอกค่ะ ประมาณ 3-4 วัน ก็เต็มที่แล้ว เพราะประเทศเป็นเกาะเล็กนิดเดียวเที่ยวแป๊บเดียวก็ทั่วค่ะ สวนสนุกที่น่าพาเด็กๆ ไป ได้แก่ UniveralStudio ที่สิงคโปร์อาจจะไม่ได้มีเครื่องเล่นใหญ่ๆ หวาดเสียวเหมือนกับประเทศญี่ปุ่น แต่ก็เหมาะสำหรับเด็กเล็กและเด็กโตค่ะ

3.ฮ่องกง

อีกหนึ่งประเทศที่ครอบครัวชาวไทยเรานิยมพาลูกหลานไปเที่ยว ประเทศนี้ก็สะดวกสบายเช่นกันค่ะ ใช้เวลาในการเดินทางจากประเทศไทยประมาณ 3 ชั่วโมง ที่พักสะดวกสบาย และไม่ยุ่งยากเรื่องอาหารการกิน เพราะมักจะถูกปากกับคนบ้านเรา แต่การเดินทางในประเทศฮ่องกงนี้หากคุณแม่นำรถเข็นไปด้วย ให้ทำใจเลยนะคะว่าจะต้องยกขึ้นลงบ่อยๆ เพราะลิฟท์แต่ละสถานีรถไฟฟ้ามีน้อยหน่อย อาจจะไม่ได้อยู่ตรงกับทางออกที่ต้องการไป และห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีทางลาดชันไว้ให้เข็นรถด้วยค่ะ สำหรับสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่จะพาลูกไปก็คือ OceanPark และ HongkongDisneyLand ค่ะส่วนสภาพอากาศก็เช็คดีๆ ค่ะ ถึงหนาวก็ยังพอทนได้

4.เกาหลี

อีกประเทศที่ใกล้กว่าญี่ปุ่นหน่อย แต่สภาพอากาศประเทศนี้ถ้าช่วงหนาว ก็หนาวพอๆ กับทางเหนือของญี่ปุ่นเลยค่ะ ดังนั้นควรเช็คสภาพอากาศดีๆ ก่อนเดินทาง และการเดินทางภายในประเทศก็ไม่ยากเช่นกันค่ะ ค่าครองชีพก็ถูกกว่าญี่ปุ่น แต่รสชาติอาหารสำหรับคุณแม่ที่ไม่คุ้นเคยอาจจะลำบากหน่อยนะคะ ส่วนของลูกก็ควรเตรียมไปให้พร้อมเลยจะดีกว่าค่ะ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่จะพาลูกไปก็คือสวนสนุก Everland ค่ะ

5.มาเลเซีย

ประเทศสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ ที่ใกล้ประเทศไทยมากๆ จะเดินทางโดยเครื่องบิน หรือใครอยู่ใกล้ภาคใต้ก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟ หรือรถบัสก็ได้ แต่อยากแนะนำให้ไปเมืองที่เจริญๆ หน่อยจะดีกว่าค่ะ หากไปเมืองย้อนยุค เด็กๆ อาจจะไม่อินด้วย เดี๋ยวจะร้องไห้งอแงอยากกลับบ้านเอาค่ะ สภาพอากาศประเทศนี้ก็ไม่แตกต่างจากบ้านเราเช่นกัน สวนสนุกที่แนะนำอยากให้พาลูกๆ ไปก็คือ LegoLand ค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP