โตแล้วแต่ยังดูดนิ้ว ส่งผลเสียต่อการโครงสร้างฟันและการพูดออกเสียง

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

เรื่องของ “การดูดนิ้ว” สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์นะคะ โดยเริ่มได้ตั้งแต่อายุครรภ์ที่ 15 สัปดาห์ แต่เรื่องนี้คงไม่ใช่ปัญหาหากลูกน้อยสามารถเลิกดูดนิ้วได้เมื่ออายุราว ๆ 3 ขวบ ซึ่งปัญหาหลักของการที่ลูกดูดนิ้วไม่ใช่แค่เรื่องของสาเหตุอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของผลกระทบที่จะตามมาด้วยหากลูกน้อยอายุได้ 4 – 5 ขวบ แล้วแต่ก็ยังไม่เลิกดูดนิ้วเสียที

ปัญหาลูกชอบดูดนิ้ว

เมื่อทารกอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ด้วยอายุที่ 15 สัปดาห์ เขาก็สามารถดูดนิ้วตัวเองได้แล้วค่ะ และเมื่อหลังคลอดแล้ว 4 เดือนลูกน้อยก็จะเริ่มดูดนิ้วอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในขั้นปากนั่นเอง

คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นได้จากที่ไม่ว่าลูกน้อยจะคว้าอะไรได้ปุ๊บก็จะเอาเข้าปากทันที นี่คือกระบวนการการเรียนรู้ของทารกค่ะ ไม่ใช่ว่าลูกอยากกินนะคะ และที่สำคัญ ยังเป็นการสร้างความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ตัวเองได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งในเด็กบางรายไม่ใช่แค่ดูดนิ้วมือนะคะ แต่ยังเริ่มดูดนิ้วหัวแม่เท้าอีกด้วยค่ะ

โตแล้วแต่ยังดูดนิ้ว ผลเสียที่จะเกิดตามมา

ส่งผลให้โครงสร้างของฟันผิดปกติ

เพราะฟันแท้ที่ขึ้นมาจะขึ้นมาได้ไม่เต็มที่ ก็เพราะมีนิ้วที่คอยกันไว้ตลอดเวลา ดังนั้น ฟันแท้ที่ขึ้นมาจะมีลักษณะเหยิน ยื่น โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุเกิน 4 ปี แต่ยังดูดนิ้วอยู่

เกิดความผิดปกติที่นิ้วและเล็บ

โดยเฉพาะข้อนิ้วอาจส่งผลให้บิดเบี้ยวได้ บางรายต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาได้อย่างถูกต้อง ถ้ามีอาการรุนแรงมาก อาจต้องถึงขั้นผ่าตัด ส่วนของเล็บอาจทำให้เกิดเล็บขบได้

ส่งผลเสียด้านจิตใจ

หากลูกต้องเข้าโรงเรียนแล้ว แต่ยังติดการดูดนิ้วอยู่ อาจทำให้เพื่อน ๆ ในห้องล้อได้ และยังถูกคุณพ่อคุณแม่ต่อว่าอีกด้วย หากเด็กถูกเพื่อนล้อแบบนี้ซ้ำ ๆ ปัญหาอาจบานปลายกลายเป็นเด็กจะไม่อยากไปโรงเรียนค่ะ

ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย

เพราะเด็กอาจไปจับสิ่งของต่าง ๆ หรือสถานที่ที่เป็นจุดจับร่วม ที่มีเชื้อโรค แล้วเอามือเข้าปากโดยที่ไม่ได้ระมัดระวัง จะส่งผลให้เจ็บป่วยได้ง่าย และบ่อย

1

2

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP