รู้ทันอารมณ์คุณแม่หลังคลอด

การคลอดและหลังคลอด
JESSIE MUM

เชื่อว่าคุณแม่หลายๆ ท่านคงทราบกันดีว่าเวลาที่เราตั้งครรภ์นั้น อารมณ์ของเราเปลี่ยนแปลงง่าย อ่อนไหวง่าย รวมไปถึงฉุนเฉียวได้ง่ายเช่นกัน บางครั้งบางหนคุณแม่เองก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าทำไมเราเองโกรธได้ง่ายขนาดนี้?

และอีกเช่นกัน…หลังคลอด อารมณ์ของคุณแม่ก็แปรปรวนไม่แพ้ขณะตั้งครรภ์ บางคนอาจหนักกว่าเสียด้วย ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงของ “ฮอร์โมน” ในร่างกายอย่างรวดเร็วทั้งสิ้นยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่มือใหม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีใครมาสลับวับเปลี่ยน อย่างนี้จะเหนื่อยหน่อย

วันนี้ผู้เขียนจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจตัวเองและรับมือกับอารมณ์หลังคลอดกันซักนิด

เหตุจากสถานการณ์ภายนอก

เหตุจากสถานการณ์ภายนอก

ความเหนื่อยล้า

เรียกได้ว่าเป็น “ช่วงรับน้อง” ของคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกจริงๆ เนื่องจากลูกน้อยจะร้องกินนมทุกๆ 2-3 ชม. และซึ่งการกินนมของลูกก็ใช้เวลา คุณแม่ก็ได้แต่นั่งตาโหลให้นมลูกกันไป และเป็นในลักษณะนี้ตลอด 24 ชม. ดังนั้น เรื่องของการเหวี่ยงวีนจึงเกิดขึ้นได้ง่ายมาก

ความเจ็บป่วยทางร่างกาย

หลังคลอดของคุณแม่ทุกคน ไม่ว่าจะคลอดแบบธรรมชาติหรือแบบผ่าคลอดย่อมต้องได้รับความเจ็บปวดเป็นทุนเดิม ถ้าคลอดธรรมชาติก็จะฟื้นตัวเร็วกว่าแผลผ่า เพราะแผลผ่านนั้นคุณแม่ยังต้องคอยรักษาดูแลบาดแผลไม่ให้เป็นหนอง ไม่ให้ติดเชื้ออีก ซึ่งต้องอาศัยการใส่ใจมากเป็นพิเศษ

ความวิตกกังวล

ข้อนี้ต้องบอกว่า เพราะความที่เป็นคุณแม่มือใหม่ อะไรที่คุณแม่หลังคลอดคิดได้ในหัว จะเป็นกังวลได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูก เรื่องสามี เรื่องงานบ้าน เรื่องรายได้ เรื่องการเจ็บป่วย ฯลฯ และที่สำคัญ

ความคาดหวัง

คุณแม่มือใหม่จะมีความคาดหวังในหลายๆ เรื่อง อาทิ ตั้งปณิธานว่าจะเป็นแม่ที่ดีที่สุด จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด จะไม่ใช้วิธีการตีลูก จะใจเย็นๆ จะทำงานบ้านให้ดีที่สุด บ้านต้องสะอาดเหมือนแรกตอนที่ยังไม่มีลูก จะดูแลทั้งลูกและสามีให้ดีที่สุด เรียกว่า ฉันต้องเป็นเพอร์เฟคชันนิสต์(Perfectionist)ซึ่งทังหมดนี้จะเป็นการกดดันตัวเองเปล่าๆ

ฮอร์โมน

อีกหนึ่งสาเหตุที่คุณแม่หลังคลอดทุกคนเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ การลดลงของเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างรวดเร็วส่งผลให้อารมณ์ของคุณแม่แปรปรวนได้ ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการปรับตัวซักระยะหนึ่ง

วิธีรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวน

วิธีรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวน

เมื่อคุณแม่เริ่มรู้ถึงสาเหตุแล้ว คราวนี้เรามาดูวิธีรับมือกันค่ะ

พักผ่อน ลูกหลับแม่หลับด้วย

อย่างเพิ่งส่ายหัวค่ะ เข้าใจว่าเทคนิคนี้จะใช้ได้เฉพาะเด็กที่นอนง่าย นอนนาน นอนเป็นเวลา แต่อย่างของผู้เขียนลูกนอนแค่ 15 นาทีในเวลากลางวัน ถ้านานหน่อยก็ 1 ชม. แรกๆ ผู้เขียนก็เครียดเหมือนกันว่าลูกนอนแค่นี้ แม่จะเอาเวลาที่ไหนไปนอน ไหนจะงานบ้าน ล้างขวดนม เผลอๆ ยังไม่ทันเสร็จเลย ลูกตื่นแล้ว

แต่ผ่านไประยะหนึ่งก็บอกตัวเองว่า ลูกหลับปุ๊บ แม่หลับด้วย งานอื่นไว้ทีหลัง เมื่อลูกตื่นแล้วเราสามารถเอาลูกเข้าเป้ตามติดไปกับเราได้ เราก็สามารถล้างขวดนมได้สบาย แต่เรื่องพักผ่อนต้องมาก่อน

ชวนคุณพ่อไปเปลี่ยนบรรยากาศ

หากบ้านไหนที่คุณพ่อต้องทำงานนอกบ้าน คุณแม่เลี้ยงลูกอยู่คนเดียว เย็นๆ หลังจากที่คุณพ่อกลับมาจากที่ทำงานแล้ว ลองชวนคุณพ่อไปเปลี่ยนบรรยากาศ พาลูกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะดูบ้างก็จะดีนะคะ ถือเป็นเวลาของครอบครัวอีกช่วงนึงเลย

ปล่อยวางบ้าง

เรื่องอะไรก็ตามที่คุณแม่กังวลอยู่นั้น ถ้ามันยังคงฟุ้ง ยังคงลอยวนอยู่ในหัว ลองลิสต์มันลงมาในกระดาษ แล้วจัดลำดับความสำคัญดู พยายามเหลือให้น้อยที่สุด เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า เวลาส่วนใหญ่ต้องให้กับลูก โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนแรก อะไรที่ยังรอได้ให้พักไว้ก่อน จะได้ไม่เป็นการกดดันตัวเอง

อย่าเกรงใจ หากต้องหาคนช่วยเลี้ยง

อ๊ะๆ ที่บอกว่าต้องหาคนช่วยเลี้ยงนั้น หมายถึง ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติพี่น้องนะคะ เพราะคนเหล่านี้เป็นคนที่เราไว้ใจได้ อย่าอายที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ เพราะหากคุณแม่ไม่ไหวจริงๆ การเลี้ยงลูกก็จะกลายเป็นความเครียดที่ส่งผลต่อการเลี้ยงลูกได้ เพราะลูกจะรับรู้ได้ค่ะ หากคุณแม่เครียด และทารกก็จะเครียดตาม

ต้นเหตุของความเครียดบางอย่างเราสามารถควบคุมมันได้ บางอย่างเราควบคุมไม่ได้ ดังนั้น การได้รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองก็จะทำให้เรามีสติได้เร็วขึ้น หยุดการกระทำที่ฉุนเฉียวได้เร็วขึ้น และที่สำคัญ คุณพ่อควรให้ “ความเข้าใจ” และ “กำลังใจ” ซึ่งกันและกัน สิ่งนี้จะทำให้ครอบครัวเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากขึ้นค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP