เทคนิคเลี้ยงลูกให้ฉลาดและอารมณ์ดีด้วยเสียงหัวเราะ

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 0-1 ขวบ
JESSIE MUM

คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ค่ะว่า การสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็กทารกโดยเฉพาะวัยแรกเกิด – 1 ขวบนั้น จะช่วยทำให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี ฉลาด และจะเป็นพื้นฐานที่ดีให้กับเด็ก เพราะเด็กจะเห็นทุกอย่างรอบตัวน่าสนุก จะทำให้เค้าอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ

ข้อดีของการเลี้ยงลูกให้ฉลาดด้วยเสียงหัวเราะ

  • ช่วยบริหารปอดและหัวใจ เพราะขณะที่ลูกหัวเราะ ร่างกายจะดึงเอาออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย ทำให้มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
  • เวลาที่ลูกหัวเราะอย่างมีความสุข ร่างกายจะหลั่งสาร “เอ็นโดรฟิน” ออกมา ทำให้ร่างกายสดชื่น แจ่มใส อารมณ์ดี พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • ช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่มีสมาธิมากขึ้น เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ไว และมีประสิทธิภาพ

ในทางกลับกัน หากเด็กไม่มีอารมณ์ขันเลย เด็กจะมีหน้าตาเครียดบ้าง เศร้าบ้างดูอมทุกข์ตลอดเวลา ระแวงคนแปลกหน้าทุกคน ไม่ไว้ใจใคร มองโลกในแง่ร้าย ส่งผลให้ไม่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีพัฒนาการช้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ

หากมีนิสัยนี้ติดตัวไปจนวัยเรียน อาจถูกเพื่อนล้อเลียน หรือถูกกลั่นแกล้งได้ ส่งให้ได้เด็กไม่อยากเข้าสังคม ชอบเก็บตัว ส่งผลเสียต่อเด็กในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น IQ, EQ หรือ SQ


อยากให้ลูกมี EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) สูง ๆ ต้องสอนลูกอย่างไร? สอนในเรื่องอะไรบ้าง? พบกับ 12 เทคนิคสั้น ๆ ทำได้ไม่ยากที่นี่ค่ะ

ลูกเป็นเด็กก้าวร้าว ชอบแย่งของเพื่อน ไม่มีใครอยากเล่นด้วยจะแก้ไขอย่างไรดี? แวะทางนี้ด่วนค่ะกับวิธีการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กอ่อนโยน และรู้จักการปรับตัว SQ(Social Quotient) คลิกที่นี่

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด

ให้ลูกกินนมแม่ให้ได้นานที่สุด

เพราะในน้ำนมแม่จะมีสารอาหารสำคัญที่เรียกว่า “อัลฟา-แลตตัลบูมิน” ซึ่งเป็นสารอาหารประเภทโปรตีนชนิดหนึ่ง มีส่วนช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทในสมองของเด็ก ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางสมองที่ดีสมวัย นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายต้องการอีกมากมาย ที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง เมื่อเด็กโตขึ้น เขาจะมีโอกาสฉลาดได้สูง

เล่นไปด้วย เรียนรู้ไปด้วย

ให้คุณแม่ลองชวนลูกมาทำกิจกรรมด้วยกันเพื่อเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ ดูนะคะ เช่น การวาดภาพ การระบายสี เล่นดนตรี ร้องเพลง หรือเล่นเกมกลางแจ้ง เป็นต้น

สร้างและเปิดโอกาสในการเรียนรู้

คุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้ ซึ่งคำว่า “ไม่ และ อย่า” เป็นคำที่ปิดกั้นการเรียนรู้ลูกอย่างสิ้นเชิง ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณแม่ประเมินดูแล้วว่ากิจกรรมนั้น ๆ เสี่ยงอันตรายต่อลูก

พาลูกไปออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนเลือดได้ดี ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ เหล่านี้จะช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง ส่งเสริมในด้านกระบวนการการคิด และการวิเคราะห์ของลูก

สอนให้ลูกรักการอ่าน

การอ่าน” เป็นการเพิ่มพูนความรู้ได้มากที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรหาหนังสือนิทานดี ๆ หรือหนังสือความรู้อื่น ๆ มาอ่านให้ลูกฟัง พร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือจะให้ลูกไปเลือกหนังสือด้วยตัวเอง แบบนี้ก็เป็นการกระตุ้นความอยากอ่านของลูกได้ดีทีเดียวค่ะ

สอนให้ลูกมองโลกแง่ดี คิดบวก

ก่อนจะสอนให้ลูกคิดบวก คุณพ่อคุณแม่ควรตอบสนองลูกในเชิงบวกก่อนค่ะ เพื่อที่ลูกจะได้เรียนรู้ว่า “ความคิดเชิงบวก” คืออะไร และทำอย่างไร เพราะการกระทำย่อมมาจากความคิด ดังนั้น ถ้าคิดดี คิดบวก เหล่านี้ก็จะแสดงออกมาทางพฤติกรรมค่ะ

ให้ความรัก แสดงความรักกับลูก

รักลูกไหม?” ถ้ารักก็แสดงความรักกับลูกเต็มที่เลยค่ะ แต่ต้องรักให้ถูกทางนะคะ การแสดงความรักที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลยก็คือ การกอดเขา หอมเขา เท่านี้ลูกก็สัมผัสได้ถึงความรักที่คุณพ่อคุณแม่มีให้แล้วค่ะ

ดูแลเรื่องโภชนาการให้ลูก

เด็ก ๆ ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพียงพอ โดยเฉพาะสารอาหารที่จำเป็นต่อสมอง อย่างโอเมก้า 3 และ DHA เพราะเป็นสารอาหารที่ส่งเสริมการทำงานของสมองให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้เทคโนโลยีให้เป็น

คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้อะไร ๆ ก็ทำผ่านแอพพลิเคชั่น การเรียนรู้ก็สามารถเรียนผ่านแอพพลิเคชั่นได้เช่นกัน เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ควรจำกัดเวลาดู และเลือกแอพพลิเคชั่นที่เหมาะกับลูกน้อย เท่านี้ก็สามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์แบบสูงสุดได้ค่ะ และเมื่อผนวกกับ “9 เทคนิคสอนลูกพูดภาษาอังกฤษได้ง่าย ๆ” แบบนี้ลูกเป็นเด็กสองภาษาได้แน่นอนค่ะ

แม่โน้ต

แม่โน้ตใช้เทคโนโลยีนี้ในการฝึกน้องมินให้เป็นเด็ก 2 ภาษาค่ะ ซึ่งได้ผลดีทีเดียว เมื่อน้องมินดูคลิปนั้น ๆ ปุ๊บ เขาสงสัยว่าคำนั้นแปลว่าอะไรเขาก็จะถามแม่โน้ต คือที่ได้แน่ ๆ ก็จะเป็นทักษะการฟัง คำศัพท์ และสำเนียงในการพูดค่ะ


อยู่บ้าน จะสอนเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกอย่างไรดี? พบกับ 9 เทคนิคที่จะทำให้คุณแม่สอนภาษาอังกฤษให้ลูกน้อยได้ง่าย ๆ ที่บ้าน คลิกที่นี่

ชื่นชม ให้กำลังใจลูก

บางครอบครัวกลัวว่าถ้าชมลูกแล้วลูกจะเหลิง แต่รู้หรือไม่คะว่าผลเสียของการไม่ชมลูกเลย จะส่งผลให้ลูกเป็นเด็กที่มี Self-esteem ต่ำ เมื่อโตขึ้นเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่เรียกร้องความสนใจ ต้องการแต่ความรัก และอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ การชื่นชมลูกควรชื่นชมแต่พอควรค่ะ ไม่ได้ถึงขนาดว่าต้องให้รางวัลกันทุกครั้งไปนะคะ

แม่โน้ต

แม่โน้ตก็ชมน้องมินค่ะ ชื่นชมแต่พอควร การชื่นชมลูก ไม่ใช่การเอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และด้อยค่าคนอื่น เพื่อให้ลูกเราดูดี แต่แม่โน้ตใช้วิธีเทียบกับพัฒนาการที่ผ่านมาของตัวน้องมินเองค่ะ แค่นี้เขาก็รู้สึกภูมิใจแล้วค่ะ

วิธีเลี้ยงลูกให้อารมณ์ดีด้วยเสียงหัวเราะ

อยากให้ลูกเป็นเด็กดีมีอารมณ์ขัน ฉลาด คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ ดังนี้ค่ะ

เล่นจ๊ะเอ๋

คุณพ่อคุณแม่สามารถเล่นจ๊ะเอ๋ได้ง่ายๆ เลยค่ะ เพียงแค่ใช้ผ้าหรือมือ ปิดหน้า พอเปิดหน้าก็จ๊ะเอ๋กับลูก แรกๆ ลูกอาจจะงง ๆ นิ่งๆ เพราะเด็กทารกเค้าจะเข้าใจแค่ว่าเมื่อไม่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ แสดงว่าไม่อยู่ แต่เมื่อลูกเริ่มคุ้นเค้าก็จะเริ่มหัวเราะส่งเสียงดังเองค่ะ

เป่าพุงนุ่มๆ

คุณพ่อคุณแม่ลองเป่าพุงลูก พร้อมทำเสียงประหลาด ๆ ลูกก็จะรู้สึกลุ้นว่าคุณพ่อคุณแม่จะเป่าเมื่อไหร่ แล้วจะมีเสียงไหม เท่านี้ก็เรียกเสียงหัวเราะได้แล้วล่ะค่ะ

ทำเสียงตลก

การทำเสียงตลกแบบหลากหลายเสียง ลูกๆ ก็ขำได้เช่นกันค่ะ ผู้เขียนเองก็ลองทำเสียงบีทบ็อกซ์ ซึ่งก็ทำไม่เป็นหรอกค่ะ แต่ก็ทำเพื่อให้เค้าได้หัวเราะ ก็ได้ผลนะคะ ทีนี้เค้าทำตามเลย^^ กางมือเอาไปปิดปากตัวเอง แล้วพ่นลมออกมา บางทีก็มีน้ำลายกระเซ็นพอเป็นกระสัย

ฟัดตัวลูก

ขณะที่คุณพ่อคุณแม่กำลังฟัดตัวลูกนั้น อาจทำเสียง “ง่ำ ๆ ๆ” ไปด้วยก็ได้นะคะ แกล้งทำให้ลูกได้ลุ้นว่าคุณพ่อคุณแม่จะง่ำส่วนไหนต่อไป ซึ่งง่ำแขน ง่ำขา ง่ำนิ้วมือ ฯลฯ ก็ได้หมดค่ะ

จั๊กจี้

แรก ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจั๊กจี้ในจุดที่ลูกชอบหัวเราะก็ได้นะคะ แล้วค่อยผลัดเป็นเอื้อมมือไปตรงโน้นที ตรงนี้ที ลูกก็จะลุ้นไปเอง เพราะไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะจั๊กจี้เค้าตรงจุดไหน ข้อนี้อาจทำให้หัวเราะกันเหนื่อยทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูกก็ว่าได้นะคะ

ปูไต่

ปูไต่จะให้สนุก ต้องลองไต่ที่สีข้าง หลัง หรือเท้าค่ะ รับรองได้ผล

ใช้ของเล่นบีบมือที่มีเสียง

ของเล่นที่ว่านี้ส่วนมากจะเป็นยาง ที่เวลาปล่อยมือจากการบีบจะมีลมเข้าไปข้างในของของเล่น ทำให้มีเสียง เดี๋ยวนี้ของเล่นแบบนี้มีให้เลือกหลายแบบค่ะ นับเป็นการฝึกพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก (มือ) ให้กับลูกด้วยนะคะ

หม่ำนิ้วเด็ก

บางทีคุณพ่อคุณแม่เกิดอาการหมั่นเขี้ยวลูก ก็สามารถเล่นกับลูกได้ด้วยการเม้มปากแล้วหม่ำนิ้วลูกเล่น ไล่ไปทีละนิ้ว จนตอนนี้ลูกผู้เขียนเองบางทีเค้าก็เอานิ้วเข้าปากผู้เขียนเองก็มีค่ะ เค้าอยากเล่นอีก^^

พากย์เสียงสัตว์ต่าง ๆ

บ้านไหนมีสัตว์ที่เป็นของเล่นหรืออาจเป็นการเล่านิทานก็ได้ค่ะ ให้คุณพ่อคุณแม่ลองทำเสียงสัตว์หรือทำเสียงของตัวละครที่แตกต่างกันไป เด็ก ๆ จะเกิดความสนใจเพราะความแตกต่างของเสียงจะมีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน นอกจากจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับลูกได้แล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสมาธิให้กับลูกได้อีกด้วยค่ะ

เมื่อลูกมีพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดี มีพัฒนาการทางสมองที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ลูกก็จะสนุกกับการเรียนรู้ ซึ่งทำให้ลูกความฉลาดได้นั่นเอง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP