14 ข้อ พ่อแม่ที่ดีควรเป็นเช่นไร

ไลฟ์สไตล์
JESSIE MUM

ทันทีที่รู้ว่ามีลูก โดยเฉพาะลูกคนแรก คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายท่านตั้งปณิธานว่า “จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด” และ “จะเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้” แต่…เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราได้เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดีอย่างที่ตั้งใจแล้วหรือยัง
วันนี้ผู้เขียนมีแนวทางการเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดีมาฝากค่ะ

ทำกิจกรรมร่วมกัน

เพราะการสร้างพื้นฐานที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับลูกตั้งแต่เล็กๆ จะทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กที่มี EQ (Emotional Quotient)ดี ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาชวนลูกทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกัน เช่น วิ่งเล่น ปลูกต้นไม้ อ่านนิทาน วาดรูป ร้องเพลง หรือหากวันหยุดอาจพาลูกไปศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ ที่ได้ทั้งสนุกและได้ทั้งความรู้อีกด้วยค่ะ


อยากให้ลูกมี E.Q. (ความฉลาดทางอารมณ์) สูง ๆ ต้องสอนลูกอย่างไร? สอนในเรื่องอะไรบ้าง? พบกับ 12 เทคนิคสั้น ๆ ทำได้ไม่ยากที่นี่ค่ะ

ไม่เปรียบเทียบลูกตัวเองกับคนอื่น

การที่จะสอนให้เด็กคนหนึ่งมีกริยามารยาทดี มีวินัย และรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบนั้น ต้องใช้เวลา เด็กบางคนสอนง่าย เด็กบางคนสอนยาก แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ค่อยๆ สอนไปทุกวันๆ ทำให้เค้าได้เคยชิน เค้าก็จะซึมซับได้เองจนติดเป็นนิสัยไปจนโต

เพราะฉะนั้น ถ้าทุกอย่างต้องใช้เวลา คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบลูกเรากับใคร กลับกันการเปรียบเทียบนี้จะมีแต่ทำให้ลูกเสียใจนะคะ

พาลูกเดินเล่น และพูดคุยกับลูก

ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ตั้งแต่ลูกยังแบเบาะอุ้มเค้าพาเค้าเดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ ก็เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้ลูกน้อย

ถ้าเป็นเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยสามารถเดินได้เอง ในระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่พาเค้าเดินเล่นให้ชวนลูกพูดคุยไปด้วย ชี้ชวนให้ดูดอกไม้หรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ นอกจากจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในครอบครัวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทักษะความรู้รอบตัวให้กับเค้าอีกด้วยนะคะ

ความผิดลูกที่ผ่านไปแล้วก็ลืมๆ ไปบ้าง

คนเราต้องเคยทำผิด ทำพลาดกันมาแล้วทุกคน ขนาดผู้ใหญ่อย่างเราก็เคยทำผิดมาแล้วเช่นกันเพราะฉะนั้นเด็กที่เพิ่งเกิดมาไม่กี่ปีก็ย่อมต้องมีผิดพลาดแน่นอน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรยกเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูดอีก หรือเอามาเป็นประเด็นที่คอยจับผิดลูกตลอดไปจนกระทั่งลูกโตนะคะ

ใส่ใจในการเลือกอาหารให้ลูก

โภชนาการที่ดี” เป็นสิ่งสำคัญสำหรับลูก เรียกได้ว่าทันทีที่ลูกสามารถทานอาหารเสริมได้ คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจเลือกอาหารให้ลูกน้อยโดยให้ลูกได้ทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพราะการที่ลูกได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ จะส่งผลให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งทางร่างกาย และส่งผลดีต่อสภาพจิตใจอีกด้วยนะคะ


สำหรับคุณแม่มือใหม่อาจจะยังไม่ค่อยทราบหรือไม่แน่ใจว่าควรจะให้ลูกน้อยทานอะไรดี และควรทานในปริมาณเท่าไหร่ วันนี้ เรามีตารางอาหารเสริมทารกวัย 6 เดือน – 5 ปี มาฝากค่ะ

ใส่ใจในพฤติกรรมของลูก

เด็กจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงวัยหากมีเวลาคุณพ่อคุณแม่ควรหาข้อมูลเพื่อรับมือกับลูกน้อยไว้ก็จะดีนะคะ เพราะเชื่อเหลือเกินว่าลูกๆ ต้องทำให้คุณพ่อคุณแม่โมโหได้ทุกวันแน่นอน แต่คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งสติ แล้วค่อยๆ หาจังหวะสอนเค้า หรือพูดคุยกับเค้าดี ๆ เค้าก็จะฟังคุณพ่อคุณแม่มากขึ้นค่ะ

เชื่อมั่นในตัวลูก

แม้โน้ตเคยพาลูกไปลองเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ลูกอายุได้ 2 ขวบกว่า ๆ (คุณแม่อยากจะลองดูว่าถ้าลูกเราได้เข้าเรียนและเจอกับคุณครูแล้ว เค้าจะมีการปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหน) พอเริ่มเรียนเค้าจะไม่อยู่นิ่ง เค้าเดินเรื่อย ๆ ในห้อง คุณครูต้องเดินตาม (พอดีคลาสนั้นมีลูกเราเรียนคนเดียว) เรียนผ่านไปประมาณ 2-3ครั้ง เค้าสามารถเต้นหรือทำตามเพลงที่คุณครูสอนได้ จากเรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนรู้ว่าเด็ก แม้จะไม่อยู่นิ่ง แต่หูของเค้าฟังตลอดตาเค้าก็ดู แม้จะไม่ได้นิ่งดูตลอดเวลาก็ตามแต่เค้าก็สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิดเพราะฉะนั้นอย่าดูถูกความสามารถนะคะ

เคารพในการตัดสินใจของลูก

เด็กในวัย 1-3 ขวบ จะเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเอง อยากเลือกนู่นเอง เลือกนี่เอง ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างเสื้อผ้า เตียงนอน ผ้าห่ม แปรงสีฟัน ฯลฯ หรือไปจนเรื่องของการสอนให้แบ่งปัน เพราะของบางอย่างก็เป็นของรักของหวงของลูก ลูกย่อมมีสิทธิที่จะไม่แบ่งปันของที่เค้ารักได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรบังคับลูกนะคะ เพราะไม่เช่นนั้น เค้าจะมองว่า “การแบ่งปัน คือ การพลัดพรากสิ่งที่เค้ารักไป” แล้วเค้าจะไม่ชอบการแบ่งปันค่ะ

พร้อมที่จะกอดลูกเสมอ

ถึงแม้ในเวลาที่เค้ามีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก เช่น ร้องกรี๊ด เอาแต่ใจ งอแง ไม่ฟังใคร ฯลฯ ลูก…ก็ยังคงต้องการความรัก ต้องการอ้อมกอดที่อบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่เหมือนเคย เพราะสิ่งนี้จะทำให้เค้ารู้ว่า ไม่ว่าเค้าจะเป็นอย่างไรก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่คอยให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างเค้าเสมอ

อย่าให้ทางเลือกลูกมากเกินไป

คุณแม่บางคนบอกว่า “อ้าว! ให้ทางเลือกน้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี” ถูกค่ะ ให้น้อยไปเช่น 2 ทาง ออกแกมบังคับว่า “ไม่ทางนั้น…ก็ทางนี้” และการให้ทางเลือกลูกมากไปอาจทำให้ลูกสับสน เลือกไม่ได้ซักทีว่าจะไปทางไหนดี ทางที่ดี และพอเหมาะควร กำหนดทางเลือกให้ลูก 2 – 3 ทาง เท่านี้ก็พอค่ะ จะทำให้ลูกไม่รู้สึกว่าถูกบังคับมากไป หรือปล่อยเปิดกว้างมากไป

พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ตลอดเวลา

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคิดว่า “เราเป็นพ่อแม่คนแล้ว อย่าให้ลูกรับรู้ความรู้สึกหรือแบกรับความรู้สึกอะไรจากเราเลย” แต่ความจริงแล้ว การให้ลูกได้รับรู้อารมณ์และความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่บ้าง ก็ทำให้ลูกได้เรียนรู้นะคะว่าคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง และที่สำคัญลูกจะเรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์ที่ถูกต้องและเหมาะสมจากคุณพ่อคุณแม่ได้ค่ะ

ยกตัวอย่าง “อย่าให้ทางเลือกลูกมากเกินไป” เช่น

“แม่ตกใจแทบแย่ ที่ตอนแรกหาโทรศัพท์มือถือไม่เจอ แล้วแถมจำไม่ได้ด้วยสิว่าวางไว้ที่ไหน แต่พอนึกได้ว่าอยู่บนหัวเตียงก็ค่อยโล่งใจหน่อย”

ไม่แน่นะคะ บางทีคุณพ่อคุณแม่อาจได้เห็นพฤติกรรมที่น่ารัก และประโยคที่ทำให้รู้สึกดีจากลูกก็ได้นะคะ

แม่โน้ต

แม่โน้ตเป็นคนกลัวจิ้งจก แล้วมีอยู่คืนหนึ่งแม่โน้ตต้องเดินไปหยิบนมให้น้องมินที่ห้องครัว แต่ไม่ได้เปิดไฟ ระหว่างทางที่จะเดินไปห้องครัวมีจิ้งจกเดินตัดหน้า แม่โน้ตร้องกรี๊ด น้องมินวิ่งออกมาดู ถามว่าหม่ะม้าเป็นอะไร พอเราเล่าจบ เค้าเดินมาลูบหลังพร้อมพูดว่า “โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรน้าหม่ะม้า” แล้วเค้าก็เดินไปเปิดไฟ จูงมือเราเข้าห้องครัวไปด้วยกัน

ไม่ควรตำหนิลูกทุกเรื่อง

ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่มักจะบอกว่า “ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” เพราะฉะนั้น เมื่อลูกจะทำหรือทำอะไรลงไป ลำดับต้น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่จะมองเห็นคือ “ความผิดพลาดหรือความผิดอันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์” เหล่านี้ จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ตำหนิลูกมากกว่าชมลูก แต่สิ่งที่ลูกต้องการคือ “การตำหนิเพื่อก่อ

ในแง่ของการเลี้ยงลูกเชิงบวก คุณพ่อคุณแม่ควร “สื่อสารกับลูกด้วยประโยคเชิงบวกอย่างน้อย 5 ประโยค และประโยคเชิงลบเพียง 1 ประโยค

ไม่ควรทำเรื่องภายในครอบครัวให้เป็นเรื่องของสาธารณะ

สาธารณะ” ในที่นี้หมายรวมถึงทั้งสถานที่และบนโลกของโซเชียลมีเดียที่ปัจจุบันนั้นได้รับความนิยมกันอย่างมาก เช่น เวลาไปเดินห้างด้วยกัน ไม่ควรต่อว่าหรือตำหนิลูกด้วยเสียงที่ดัง แต่ควรทำให้ลูกสงบก่อน แล้วคุณพ่อคุณแม่ค่อยพูดคุยกับลูกในพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัว

หรือ…หากมีการทะเลาะกับลูกหรือลูกงอแงมาก คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรนำมาโพสต์ในโซเชียลมีเดีย เพราะอย่าลืมว่าแม้ว่าว่าจะแลดูเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่การโพสต์ลงบนพื้นที่ส่วนนั้นจะกลายเป็นสาธารณะทันที

ไม่ควรให้คนอื่นมาเป็นมาตรวัดความสำเร็จของครอบครัว

ข้อนี้เกิดจากการที่คุณพ่อคุณแม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่น หรืออาจเกิดได้จากที่คนอื่นมาพูดในทำนองอวดตัวว่าพวกเค้าประสบความสำเร็จได้มากกว่าคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ยิ่งจะเป็นการสร้างความกดดันให้ตัวเอง และส่งต่อไปถึงลูกได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว ทีนี้ครอบครัวก็จะไม่มีความสุข

ความสำเร็จของแต่ละครอบครัวนั้นย่อมแตกต่างกันไป บางคนอาจมองที่ตัวเงิน บางคนมองที่ความสุขจากการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ดังนั้น อะไรคือความสำเร็จของครอบครัว คุณพ่อคุณแม่จะทราบดีที่สุดค่ะ

ได้รู้กันแล้วว่าพ่อแม่ที่ดีควรเป็นเช่นไร คราวนี้เราจะมาดูอีกแง่มุมหนึ่งกันบ้างกับ “พ่อแม่รังแกฉัน รักบริสุทธิ์ที่สร้างความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ให้กับลูก” จะผิดพลาดมากน้อยแค่ไหน ต้องไปติดตามค่ะ


พ่อแม่รังแกฉันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ทำลายชีวิตลูกโดยที่ไม่รู้ตัว มีเรื่องอะไรบ้าง? และต้องแก้ไขอย่างไรให้กลายเป็นรักที่ถูกทาง? ไปติดตามกันค่ะ คลิกที่นี่

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP