ก่อนท้องอยากกินอะไรก็ได้กิน ไม่ต้องห่วงว่าจะกระทบถึงใคร แต่พอตั้งครรภ์ มีเจ้าตัวเล็กในท้องต้องดูแล อยากกินอะไรที่เคยกินก็ต้องยั้งไว้ก่อนไม่แน่ใจว่ากินอะไรได้บ้าง มากหรือน้อยแค่ไหน ไอติมกะทิ หรือกะทิก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ ว่าแต่…คนท้องกินไอติมกะทิ หรือกะทิได้ไหม?
สารบัญ
คุณสมบัติของไอศกรีมต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
ทุกอย่างมีประโยชน์และโทษ มีอะไรอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ
ประโยชน์ของไอศกรีม
ช่วยหยุดเลือดกำเดา
เนื่องจากไอศกรีมมีความเย็นจัด เมื่อเรากัดไอศกรีม ผ่านช่องปาก ด้วยความเย็นจะส่งผ่านไปยังโพรงจมูก ด้วยความเย็นของไอศกรีมนี้เองที่สามารถหยุดเลือดได้
สามารถทดแทนอาหารมื้อใหญ่ได้
ไอศกรีมเป็นเมนูที่มีแคลอรี่สูงมากที่ 200 แคลอรี่ ซึ่งเรียกได้ว่ากินแทนอาหารมื้อหลักได้มื้อหนึ่งเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
ไอศกรีมมีแคลเซียมสูง
“นม” นับเป็นส่วนผสมหลักในไอศกรีม ซึ่งในนมจะมีปริมาณแคลเซียมที่สูงซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายคุณแม่และลูกน้อยต้องการ ช่วยในการเสริมสร้างกระดูก ฟัน เล็บ และผมของลูกน้อย
ช่วยให้อารมณ์ดี
หลังจากที่เราได้กินไอศกรีมเข้าไปร่างกายจะสร้างสารชีวเคมีชนิดหนึ่งขึ้นมามีชื่อว่า “เซโรโทนิน (Serotonin)” ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารสื่อประสาท และเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในร่างกายไม่ว่าจะเป็นด้านการควบคุมอารมณ์ หรือการย่อยอาหาร
บรรเทาอาการแพ้ท้อง
สำหรับคุณแม่ท้องบางคน การกินไอศกรีมเย็น ๆ เพียงแค่ 2 คำ ก็สามารถช่วยบรรเทาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียนได้
โทษของไอศกรีม
แคลเซียมถูกทำลายระหว่างการผลิต
เนื่องจากไอศกรีมต้องผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย ดังนั้น อาจส่งผลให้แคลเซียมและวิตามินในนมบางส่วนถูกทำลายไป
อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
ด้วยความเย็นของไอศกรีมทำให้เหลอดเลือดหดตัวลง อาจส่งผลให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดศีรษะได้
ใช้วัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ
ในผู้ผลิตบางรายอาจใช้วัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ เพื่อเป็นการลดต้นทุน เช่น ใช้ไขมันเทียมแทนการไขมันจากพืชหรือจากสัตว์ ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
อาจทำให้น้ำหนักเกินเกณฑ์
ด้วยความที่ไอศกรีมมีแคลอรี่สูงมาก ดังนั้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์กินเป็นประจำอาจส่งผลให้มีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์ได้
เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
ไอศกรีมทั้งหวานและเย็น ซึ่งด้วยความหวานก็คือ การที่มีปริมาณน้ำตาลมากนั่นเอง ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ควรระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้
ข้อมูลอ้างอิง htgetrid.com
ประโยชน์ของกะทิ
ช่วยลดน้ำหนัก
กะทิเป็นอาหารที่ถูกย่อยได้ง่าย เมื่อกะทิเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงาน ไม่มีการสะสมเป็นไขมัน นอกจากนี้ กะทิยังไปกระตุ้นให้ต่อมธัยรอยด์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งก็หมายความการเผาผลาญพลังงานในร่างกายก็ทำงานได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ในกะทิมีสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการต้านไวรัส ป้องกันแบคทีเรีย ป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ ด้านเชื้อราที่จะเข้าสู่ร่างกาย ลดการเกิดการเจ็บป่วย และอาการอักเสบต่าง ๆ ได้
บรรเทาอาการเจ็บคอ
กะทิมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บคอและแผลต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้แพ้แลคโตส หรือแพ้โปรตีนจากนมสัตว์
คนท้องกินกะทิได้ไหม
เป็นอย่างไรบ้างคะคุณแม่จะเห็นได้ว่ากะทิก็มีประโยชน์หลายอย่างทีเดียว แต่ก็ยังมีคุณแม่บางรายที่เชื่อกันว่ากะทิทำให้อ้วน ซึ่งความจริงแล้วถ้าเราสังเกตดี ๆ อาหารที่ใส่ในกะทิจะมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดโรคอ้วนได้ ทั้งนี้ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แม้จะกินกะทิได้ แต่ก็ไม่ควรมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นกะทิหรืออาหารชนิดอื่น ๆ เพราะการได้สารอาหารซ้ำ ๆ กันเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็ไม่เป็นผลดีต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
เนื่องจากร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่หลากหลายเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรกินอาหารให้หลากหลายเข้าไว้ เน้นให้ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำเปล่าสะอาดในปริมาณที่ร่างกายต้องการนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ